วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2551

คู่มือการทำบล็อกของ www.blogspot.com



บทนำ

เว็บบล็อก คืออะไร ?



บล็อก คืออะไร


บล็อกเป็นไดอารีส่วนบุคคล ห้องฟังเทศน์ พื้นที่สำหรับความร่วมมือ เวทีแสดงออกทางการเมือง ห้องกระจายข่าว การเก็บรวบรวมลิงก์ ความคิดส่วนตัวของคุณ บันทึกสำหรับคนทั่วโลก

บล็อกของคุณจะเป็นอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ เรามีบล็อกนับล้าน ทุกรูปแบบและทุกขนาด และไม่มีกฎตายตัว

กล่าวง่ายๆ บล็อกก็คือเว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถเขียนเรื่องต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เรื่องใหม่จะปรากฏด้านบนสุด เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมสามารถอ่านสิ่งที่มาใหม่ จากนั้นจะสามารถแสดงความคิดเห็นหรือสร้างลิงก์ หรือส่งอีเมลถึงคุณ หรือไม่ทำอะไรเลย

นับตั้งแต่ Blogger เปิดตัวในปี ค.ศ. 1999 บล็อกก็ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของเว็บ สร้างผลกระทบต่อการเมือง เขย่าวงการสื่อสารมวลชน และทำให้คนนับล้านได้แสดงออกและติดต่อกับบุคคลอื่น



เริ่มต้น

วิธีที่ทำให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับการเขียนบล็อกได้รวดเร็วที่สุดคือ ลองเขียนบล็อกด้วยตัวคุณเอง เราได้พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้การเขียนบล็อกเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ เพียงคลิกลิงก์ด้านล่าง คุณก็จะเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เปลี่ยนเว็บและสื่อเป็นกิจกรรมการมีส่วนร่วม ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที เราไม่ได้ล้อเล่น

หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ใครจะรู้ คุณอาจจะสนุกก็ได้

และอย่าลืม: Blogger ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ และถ้าคุณประสบปัญหา เพียงคลิกปุ่มความช่วยเหลือจากหน้าจอใดก็ได้ และคุณจะพบคำตอบที่คุณต้องการหา หรือกระทั่งยังสามารถถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนของเรา



เผยแพร่ ความคิดของคุณ


บล็อกเป็นกระบอกเสียงของคุณเองในเว็บ และเป็นพื้นที่สำหรับเก็บและแลกเปลี่ยนสิ่งที่คุณสนใจ — ไม่ว่าจะเป็นความเห็นเกี่ยวกับการเมือง ไดอารีส่วนบุคคล หรือลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่คุณต้องการจดจำ


ผู้คนจำนวนมากใช้บล็อกเพื่อจัดระเบียบความคิดของตัวเอง ในขณะที่บางคนมีผู้ฟังนับพันที่มีอิทธิพลจากทั่วโลก นักสื่อสารมวลชนมืออาชีพและสมัครเล่นใช้บล็อกเพื่อเผยแพร่ข่าว ส่วนนักเขียนบันทึกส่วนบุคคลใช้บล็อกเพื่อแสดงความคิดของตน

ไม่ว่าคุณอยากจะบอกอะไร Blogger ช่วยคุณพูดสิ่งนั้นได้



ชักชวน เพื่อนเข้าร่วม

Blogging ไม่ใช่แค่การแสดงความคิดของคุณบนเว็บเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการติดต่อและรับฟังบุคคลอื่นที่อ่านผลงานของคุณและใส่ใจที่จะตอบสนอง เมื่อใช้ Blogger คุณจะสามารถควบคุมว่าใครสามารถอ่านและเขียนในบล็อกของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนสนิทหรือคนทั้งโลก!

ความคิดเห็นของ Blogger ให้ทุกคนจากทุกที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความของคุณ คุณสามารถเลือกว่าจะยอมให้มีความคิดเห็นสำหรับแต่ละบทความหรือไม่ และคุณสามารถลบความคิดเห็นใดก็ตามที่คุณไม่ชอบได้

การควบคุมการเข้าถึง ช่วยให้คุณสามารถเลือกว่าผู้ใช้คนใดสามารถอ่านหรือเขียนข้อมูลในบล็อกของคุณ คุณสามารถใช้บล็อกของกลุ่มที่มีผู้เขียนหลายคนเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสำหรับทีมขนาดเล็ก ครอบครัว และกลุ่มอื่นๆ หรือในฐานะผู้เขียน คุณสามารถสร้างพื้นที่ออนไลน์ส่วนบุคคลสำหรับการเก็บรวบรวมข่าวและความคิดต่างๆ เพื่อเก็บไว้เอง หรือแลกเปลี่ยนกับผู้อ่านได้มากตามที่คุณต้องการ

ข้อมูลส่วนตัวใน Blogger ช่วยให้คุณสามารถค้นหาบุคคลและบล็อกที่มีความสนใจร่วมกับคุณได้ ข้อมูลส่วนตัว Blogger ของคุณ ซึ่งเป็นที่ที่คุณแสดงบล็อก ความสนใจ และอื่นๆ จะช่วยให้บุคคลอื่นหาคุณพบ (เฉพาะในกรณีที่คุณยินยอมให้ค้นหาได้)



ออกแบบ บล็อกของคุณ

ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นบล็อกของคุณ หรือคิดว่าได้เวลาเปลี่ยนโฉมหน้าของบล็อกที่มีอยู่แล้ว เครื่องมือแก้ไขที่ใช้งานง่ายของ Blogger จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบหน้าเว็บที่มีรูปลักษณ์น่าสนใจได้อย่างง่ายดาย

แม่แบบ — แม่แบบที่เรามีจะช่วยให้คุณเริ่มต้นด้วยไซต์ที่น่าสนใจได้ทันที โดยไม่ต้องเรียนรู้ HTML แม้ว่า Blogger จะยอมให้คุณแก้ไขรหัส HTML ของบล็อกเมื่อใดก็ได้ที่ต้องการ

สีและแบบอักษรที่กำหนดเอง — เมื่อคุณพร้อมที่จะดำเนินการในขั้นถัดไป คุณสามารถตั้งค่าแม่แบบเพิ่มเติม เพื่อสร้างการออกแบบที่สะท้อนถึงตัวคุณและบล็อกของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ลากและวางองค์ประกอบของหน้า — ระบบลากและวางที่แสนสะดวกของ Blogger ช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจว่าจะให้บทความ ข้อมูลส่วนตัว คลังบทความ และส่วนอื่นๆ ของบล็อกอยู่ที่ใดในหน้า


ส่ง รูป

บางครั้งคุณเพียงอยากแสดงรูปภาพ ในอินเทอร์เฟซของ Blogger มีปุ่มสำหรับการอัพโหลดรูปภาพ เพียงคุณคลิกปุ่มรูปภาพเพื่ออัพโหลดภาพถ่ายจากคอมพิวเตอร์ของคุณ ถ้าภาพถ่ายที่คุณต้องการวางในบล็อกนั้นอยู่ในเว็บอยู่แล้วก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยบอกเราว่าภาพนั้นอยู่ที่ใด

คุณสามารถส่งภาพถ่ายจากกล้องโทรศัพท์เคลื่อนที่ไปยังบล็อกของคุณโดยตรง ขณะที่คุณกำลังเดินทาง ด้วย Blogger Mobile


ใช้ ระบบเคลื่อนที่

Blogger Mobile ช่วยให้คุณสามารถส่งภาพถ่ายและข้อความไปยังบล็อกของคุณโดยตรงในขณะที่เดินทาง คุณแค่ส่งข้อความถึง go@blogger.com จากโทรศัพท์ โดยไม่จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้ Blogger เพียงแค่ข้อความนั้น คุณก็สามารถสร้างบล็อกใหม่และแสดงภาพถ่ายหรือข้อความที่คุณส่ง

หลังจากนี้ ถ้าคุณต้องการอ้างสิทธิ์บล็อกระบบเคลื่อนที่หรือเปลี่ยนบทความของคุณเป็นบล็อกอื่น เพียงเข้าสู่ go.blogger.com และใช้รหัสการอ้างสิทธิ์ของ Blogger ที่ส่งถึงโทรศัพท์ของคุณ

เราสนับสนุนผู้ให้บริการระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ถ้าผู้ให้บริการของคุณไม่สามารถใช้ Blogger Mobile คุณสามารถส่งบล็อกของคุณโดยใช้ Mail-to-Blogger

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเราทราบกันแล้วว่า www.blogspot.com คืออะรัย มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
และเรา วิธีการทำบล็อกมาฝากน่ะ ว่าทำอย่างไร

เริ่มจากอับดับแรกเลย เราต้องเข้าเว็บไซด์ของ www.gmail.com ก่อนน่ะค่ะ (สงสัยอ่ะดิ...ว่าเข้าไปทำไม)
ก็จะทำบล็อกของ www.blogsop.com ได้เนี่ย ต้องมีอีเมล์ของ.....www.gmail.com ก่อนน่ะค่ะ


***คลิกเข้าไปที่เวบไซด์ http://www.gmail.com/

***คลิกที่สมัครเข้าใช้งานที่ gmail


จากนั้นเราก็จะมาสร้างสร้างบัญชี
โดยกรอกรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเรา เมื่อกรอกเสร็ดแล้ว


***ให้คลิกที่ ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน

***ให้คลิกที่ ฉันพร้อมแล้ว นำฉันไปยังบัญชี

แล้วก็ตรวจสอบดู ว่ารายชื่อของเรามีอีเมล์หรือป่าว ถ้ามีแล้วก็ออกจากระบบได้เลยน่ะค่ะ

หลังจานั้นเราก็มาเริ่มสมัครสมาชิกของเว็บไซด์ http://www.blogspot.com/ กันน่ะค่ะ


โดยเราคลิกเข้าไปที่เว็บของ http://www.blogspot.com/ แล้วก็



ไปสร้างบัญชีโดยการกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเราน่ะค่ะ

***ไปที่ ข้าพเจ้ายอมรับข้อตกลงการใช้บริการ

***คลิกที่ ดำเนินการต่อ

ตั้งชื่อเว็บบล็อกของท่าน จากนั้นก็จะต้องตั้งชี่อบล็อก ซึ่งจะเปนชื่อของบล็อกเรา

เมื่อเราตั้งชื่อเสร็ดแล้ว

***คลิกที่ดำเนินการต่อ


แล้วก็เลือธีมแม่แบบที่จะเปนบล็อกของเรา เมื่อเลือกเสร็ดแล้ว


***คลิกที่ดำเนินการต่อ


จากนั้นทางเว็บ http://www.blogspot.com/ ก็จะมีข้อความบอก


บล็อก ของคุณถูกสร้างขึ้นแล้ว
เราได้สร้างบล็อกให้กับคุณแล้ว คุณสามารถเพิ่มบทความใหม่ในบล็อก สร้างข้อมูลส่วนตัว หรือตั้งค่ารูปลักษณ์ของบล็อก

และเราก็สร้างบทควมของเราได้เลยค่ะ

โดยการสร้างบทความของเรา สามารถสร้างได้ง่าย ๆ น่ะค่ะ

***โดยคลิกที่ บทความใหม่

โดยจะเริ่มเขียนจากชื่อเรื่อง

***ชื่อเรื่อง

แล้วก็เริ่มเขียนเน้อหาในกล่องข้อความน่ะค่ะ (หรือว่าจะหาข้อมูล แล้ว Copy มาวางก็ได้น่ะค่ะ)
คลิกตรงนี้น่ะ ถ้าอยากใส่รูปประกอบ

สีข้อความน่ะค่ะ

ตัวหนา น่ะค่ะ

ลบการจัดรูปแบบจากส่วนที่เลือกน่ะค่ะ

แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการที่จะโหลดวิดีโอ....ก็คลิกที่ เพิ่มวีดีโอ
แล้วก็โหลดไฟล์ ที่เพื่อน ๆ ต้องการ จากนั้นก็ คลิก บันทึก น่ะค่ะ

เมื่อเขียนข้อความเสร็ดแล้วอย่าลืมคลิก บันทึกเป็นฉบับร่าง น่ะค่ะ (เวลาแก้ไขข้อความจะทำได้ง่าย)
เมื่อต้องการจะเผยแพร่บทความ ก็คลิกที่ เผยแพร่บทความ น่ะค่ะ
เมื่อต้องการจะดูบล็อกดของเรา ก็คลิกที่ ดูบล็อก น่ะค่ะ แล้วก็ดูบล็อกของเราได้เลยน่ะค่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------


วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

"กูเกิ้ล" เปิดตัว "โครม" ทางเลือกใหม่...ของนักท่องเว็บ!

"กูเกิ้ล" เปิดตัว "โครม" ทางเลือกใหม่...ของนักท่องเว็บ!

--------------------------------------------------------------------------------




เปิดตัวให้ดาวน์โหลดมาใช้งานกันเรียบร้อยแล้วผ่านเว็บไซต์ http://www.google.com/chrome เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นคือ "โครม" (Chrome) โปรแกรมเบราเซอร์ หรือ โปรแกรมท่องเว็บไซต์น้องใหม่ล่าสุดในวงการไอที พัฒนาโดยค่าย "กูเกิ้ล" ยักษ์ใหญ่ธุรกิจเว็บไซต์สืบค้นข้อมูลระดับโลก

หมายมั่นปั้นมือส่งมาชิงส่วนแบ่งการตลาดจากเบราเซอร์ดังๆ เช่น "ไออี" "ไฟล์ฟ็อกซ์" และ "แม็กซ์ทอน" โดยเฉพาะ

คุณสมบัติพื้นฐานของ "โครม" เรียกได้ว่าใช้กลยุทธ์ "จับฉ่าย" ดึงเอาคุณสมบัติพื้นฐานของเบราเซอร์เจ้าอื่นๆ มาจับยัดเข้าไว้ด้วยกัน

แต่อาศัยปรับปรุง-ต่อยอดประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น ประมวลผลเร็วยิ่งขึ้นภายใต้ระบบจาวาสคริปต์ "V8" ซึ่งทีมงานกูเกิ้ลคิดค้นขึ้นมาเอง



ระบบการทำงานเด่นๆ ของ "โครม" ประกอบด้วย

1.เวลาดาวน์โหลดโปรแกรมลงเครื่องเร็วมาก ใช้เวลาไม่ถึงนาที ขนาดไฟล์ราว 7 MB

2.เลือกใช้งานในระบบภาษาไทยได้

3."อินเตอร์เฟซ" หรือ หน้าตาโปรแกรมเรียบง่าย เข้าใจง่ายตามแนวทางเดียวกับเว็บกูเกิ้ล

4.การโหลดหน้าเว็บไซต์เร็วกว่าเบราเซอร์ทั่วไปจริงตามคำโฆษณา

5.มีระบบป้องกัน "แบนเนอร์โฆษณา" ที่ชอบโผล่ขึ้นมา ท่องเว็บ

6.ใช้ "address bar" หรือแถบที่อยู่อินเตอร์เน็ต เป็นช่องกรอกคำที่ต้องการค้นหาลงไปได้เลย

7.ในส่วนของ "แท็บย่อย" บนหน้าเว็บเพจ เพิ่มลูกเล่นใหม่เข้าไป เช่น เมื่อเปิดแท็บจะแสดงภาพเว็บไซต์ที่ผู้ใช้เคยเปิดบ่อยที่สุดเอาไว้ให้ 9 เว็บ และยังแยกแท็บออกมาเป็น "หน้าต่างใหม่" ได้ด้วย


ส่วนจุดขายใหม่นอกจากเรื่องแท็บแล้ว "โครม" ยังมีระบบการแสดงผลข้อมูลทางเทคนิคของการเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ เช่น กินหน่วยความจำไปเท่าไหร่ เป็นฟังก์ชั่นเอาใจกลุ่มนักท่องเน็ตกลุ่มที่ชอบอะไร "ล้ำๆ"

ส่วนการดาวน์โหลดไฟล์ลงมายังเครื่องคอมพิว เตอร์นั้น "โครม" จะแสดงผลผ่านแท็บข้างล่างคล้ายๆ กับ "ไฟล์ฟ็อกซ์" แต่จะทำหน้าที่โหลดข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ก่อนโดยอัตโนมัติ จากนั้นผู้ใช้ค่อยเข้ามาจัดระเบียบทีหลังว่าจะเอาไฟล์ไปเก็บไว้ตรงไหน

ทีเด็ดจริงๆ น่าจะอยู่ที่ "Incognito mode-โหมดท่องเว็บไซต์โดยไม่เปิดเผยตัวตน" ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของนักเล่นเน็ตได้เป็นอย่างดี

โดยเมื่อเลือกใช้งานโหมดนี้จะไม่มีการบันทึกร่องรอย "ประวัติการท่องเว็บ" เอาไว้เด็ดขาด ขณะนี้ "โครม" อยู่ในขั้น "เบต้า" หรือขั้นทดลองใช้และรอการปรับปรุง จะโดนใจมากน้อยแค่ไหน ทดสอบกันได้ฟรีตามสะดวก


ที่มาจากหนังสือพิมพ์


โดย..ยูมิคร้าฟ

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2551

อินเตอร์เน็ต...คืออะไร

อินเตอร์เน็ตคืออะไร?

. . . . อินเตอร์เน็ต (internet) คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ ที่เชื่อมต่อกัน ทั่วโลก โดยมีมาตรฐานการรับส่งข้อมูล ระหว่างกัน เป็นหนึ่งเดียว ซึ่งคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง สามารถรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ตัวอักษร, ภาพและเสียงได้ รวมทั้งสามารถ ค้นหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

. . . . จะเห็นได้ว่า อินเตอร์เน็ตประกอบด้วย องค์ประกอบ 2 ส่วน หนึ่งคือ เครือข่าย ที่เชื่อมคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกัน และส่วนที่สอง คือ ข้อมูล ที่คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง เก็บเอาไว้ พร้อมกับมีความสามารถ ที่ช่วยให้เราค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ ในเวลาอันสั้น อินเตอร์เน็ต จึงมีประโยชน์ สำหรับยุคสังคมข่าวสาร เช่นในปัจจุบันอย่างมาก เนื่องจาก ถ้าขาด สิ่งใดสิ่งหนึ่งไป อินเตอร์เน็ตก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย อย่างเช่น ถ้าเรามีแต่เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพียงอย่างเดียว แต่ขาดข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ หรือไม่สามารถค้นหาข้อมูล ที่ต้องการ จากเครือข่ายนั้นได้ เราก็ยังคง ไม่ได้อะไร จากเครือข่ายนั้น หรือในทางกลับกัน ถ้าเรามี ข้อมูลมหาศาล แต่มีข้อมูลไม่กี่เครื่องเท่านั้น ที่สามารถ เรียกใช้งาน ข้อมูลนั้นได้ เพราะขาด ระบบเครือข่ายที่ดี ข้อมูลเหล่านั้นก็ไม่ ก่อประโยชน์ให้เราเท่าที่ควร

. . . . สิ่งสำคัญอีกอันหนึ่งที่ควรกล่าวถึง ก็คือ อินเตอร์เน็ตมีมาตรฐาน การรับส่ง ข้อมูล ที่ชัดเจน และเป็นหนึ่งเดียว ทำให้การเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์ คนละชนิด, คนละแบบ เป็นไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น เมนเฟรมคอมพิวเตอร์, มินิคอมพิวเตอร์, คอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลชนิดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพีซี, แมคอินทอช หรือเครื่องแบบใด ๆ ก็ตาม ซึ่งโดย ทั่วไปแล้ว คอมพิวเตอร์ที่ประกอบกันเข้าเป็นเครือข่ายหลัก ของอินเตอร์เน็ต มักจะเป็น เครือข่ายของมินิคอมพิวเตอร์ หรือระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network หรือ LAN) และเครือข่ายของเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ บางคนจึงเรียกอินเตอร์เน็ตว่าเป็น "เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์" (Network of Networks) ส่วนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทั้งหลายนั้น มักจะ ไม่ได้ต่ออยู่กับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา เพียงแต่เชื่อมต่อเข้าไปเป็น ครั้งคราว ตามต้องการใช้งานเท่านั้น

. . . . อย่างไรก็ตาม ความหมายที่แท้จริงของอินเตอร์เน็ต คงกว้างขวางเกินกว่า ที่กล่าว ข้างต้นมากนัก เนื่องจากอินเตอร์เน็ตมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีการ ปรับปรุงอยู่ ตลอดเวลา ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทั้งยังขึ้นอยู่กับ มุมมองของแต่ละคน ที่เป็นผู้ใช้ อินเตอร์เน็ตอีกด้วย ผู้ใช้บางคน อาจมองว่าเป็น แหล่งข้อมูลบันเทิงมหาศาลในเรื่องต่าง ๆ เช่น รายการภาพยนตร์, การเลือกซื้อสินค้า, โปรแกรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ฯลฯ บางคนอาจมองว่าเป็น ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ ที่ไม่มีวันปิด ของทุกสาขาวิชา ไม่ว่าจะ เป็นทางด้านศิลปะ, วิทยาศาสตร์, กฎหมาย, สังคม และอื่น ๆ และบางคนอาจ มองว่า อินเตอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่ให้ เข้าไปใช้งาน คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น จากระยะไกลได้ พร้อมกับรับส่งข้อความ กับผู้อื่น ผ่านที่จอหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail ฯลฯ ความหมายเหล่านี้ ไม่มีใครผิด เพียงแต่เป็นมุมมอง เฉพาะบางด้าน ของอินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่จากคำตอบที่ว่า อินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่รับส่งข้อมูล ได้หลายรูปแบบ และมี ความสามารถที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลได้ ในเวลาอันรวดเร็วนี้ คงพอที่จะมองเห็น ภาพของอินเตอร์เน็ตได้กว้างขึ้น สำหรับบริการด้านต่าง ๆ ที่มีในอินเตอร์เน็ตนั้น จะกล่าวรายละเอียด ของแต่ละบริการในตอนต่อ ๆ ไป

------------------------------------------------------------------------------------

ทำไมต้องอินเตอร์เน็ต ?

. . . . ในสังคมยุคข่าวสารข้อมูลดังเช่นทุกวันนี้ การสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้น ให้คนเราสื่อสารถึงกันง่ายที่สุดและสะดวกที่สุด การสื่อสารถึงกันด้วยคำพูด ผ่านทางโทรศัพท์ เช่นในอดีต ย่อมไม่เพียงพออีกต่อไป เราต้องการมากกว่านั้น เช่น ภาพ, เสียงและข้อความที่เป็นตัวอักษร รวมทั้งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซึ่งอินเตอร์เน็ต เข้ามาตอบสนองเราได้ ในจุดนี้

. . . . เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เราสามารถติดต่อกับเพื่อน ของเรา ในสหรัฐอเมริกา ผ่านอิเล็กทรอนิกส์เมล์, ข้ามไปค้นหาข้อมูลที่ยุโรป แล้วก๊อปปี้ไฟล์ ไปที่ออสเตรเลีย ได้จากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือที่ทำงานเรา โดยใช้เวลาทั้งหมด เพียงไม่กี่นาที ความสะดวกสบาย และมีประสิทธิภาพเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ทำมาก่อน นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายของการใช้งาน ก็นับว่าถูกกว่าที่อื่น เมื่อเทียบกับการติดต่อ ทางโทรศัพท์, การส่งโทรสาร และการส่งข้อมูล ผ่านโมเด็มโดยตรง กับปลายทางแล้ว การใช้งานผ่านทางอินเตอร์เน็ต มีค่าใช่จ่ายถูกกว่าหลายเท่า นี่เป็นเหตุผลหลักที่ว่า ทำไม่เราต้องใช้อินเตอร์เน็ต ซึ่งนับเป็นการปฏิวัติ สังคม ข่าวสาร ครั้งใหญ่ที่สุด ในยุคของเรา

. . . . การสื่อสารผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้น มีความคล่องตัวเช่นเดียวกับ การใช้โทรสาร คือ ถ้ามีบริการโทรศัพท์เข้าไปถึง เราก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ กับโมเด็ม ติดต่อเข้ากับ เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ได้เสมอ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราเปรียบเทียบการใช้งาน อินเตอร์เน็ต กับการบริการต่าง ๆ ในประเทศ เช่น โทรสาร, การส่งข้อมูลผ่านทางโมเด็ม อินเตอร์เน็ต อาจไม่เหมาะ หรืออาจมีค่าใช้จ่ายไม่ถูกกว่าบริการเหล่านั้น แต่ถ้ามองถึงความสามารถ ที่เพิ่มขึ้น ในแง่การติดต่อสื่อสารข้อมูลหลายรูปแบบเช่น ตัวอักษร , ภาพ และข้อมูล คอมพิวเตอร์ รวมทั้งการติดต่อ ไปยังเครือข่ายในต่างประเทศแล้ว การใช้บริการผ่าน อินเตอร์เน็ต จะมีข้อได้เปรียบมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด และมีราคาสูง


--------------------------------------------------------------------------------

จุดเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ต

. . . . ย้อนหลังไปในปี พ.ศ. 2512 กระทรวงกลาโหมของประเทศสหรัฐ อเมริกา ได้พัฒนา เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เพื่อใช้ในทางทหารระบบหนึ่ง ซึ่งมีคุณสมบัติ แตกต่างจากระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วไป คือสามารถรับส่งข้อมูล ระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์ได้อย่างไม่พลาด แม้ว่าคอมพิวเตอร์บางเครื่อง หรือสายรับส่งข้อมูลบางส่วน จะเสียหายหรือถูกทำลายไปก็ตาม ระบบเครือข่ายนี้ มีชื่อเรียกว่า ARPANET (Advanced Research Projects Agency Network) ซึ่งคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเชื่อมโยงกันด้วย สายส่งข้อมูล ที่แยกออกเป็นหลายเส้นทาง ประสานกันเหมือนร่างแห

. . . . เมื่อคอมพิวเตอร์ เครื่องหนึ่ง ต้องการส่งข้อมูลไปให้อีกเครื่องหนึ่งใน ARPANET มันจะแบ่งข้อมูลออก เป็นส่วนย่อย ๆ แล้วทยอยส่งไปตามที่กำหนด โดยแต่ละชิ้นย่อยๆ นี้อาจไปคนละทางกัน แต่จะไปคนละทางกัน แต่จะไป รวมกันที่ปลายทางตามลำดับ ที่ถูกต้องตามเดิมได้ แต่ถ้าหากว่าในระหว่างทาง ข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่ง (packet) เกิดสูญหายหรือผิดพลาด อันเนื่องมาจาก สัญญาณรบกวนก็ดี หรือสายส่งข้อมูล และเครื่องมือคอมพิวเตอร์ ที่อยู่กลางทางเสียหาย หรือถูกทำลายก็ดี เครื่องคอมพิวเตอร์ ปลายทาง จะส่งสัญญาณกลับมาแจ้งให้คอมพิวเตอร์ต้นทางรับรู้ และจัดการส่งข้อมูล เฉพาะส่วนที่ขาดไปให้ใหม่โดยใช้เส้นทางอื่นแทน ด้วยวิธีนี้เราสามารถมั่นใจ ได้ว่า ข้อมูลที่ส่งออกไปจะถึงปลายทาง อย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีบางส่วนของ เครือข่าย เกิดความเสียหายก็ตาม และเฉพาะข้อมูลส่วนที่เสียหายเท่านั้น ที่จะต้องส่งใหม่ ไม่ใช่ส่งใหม่ทั้งหมด ดังนั้น คอมพิวเตอร์เครือข่ายของ ARPANET จะสามารถรับส่ง ข้อมูลไปยังปลายทาง โดยใช้สายส่งข้อมูลเท่าที่เหลืออยู่ได้ และเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด ในขณะนั้น ให้พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง การรับส่งข้อมูลได้ตลอดเวลา

. . . . ก้าวแรก ของ ARPANET ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์เพียง 4 เครื่อง คือ คอมพิวเตอร์ของ มหาวิทยาลัยยูทาห์, มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ที่ ซานตาบาบารา, มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ที่ลอสแองเจลิส และสถาบันวิจัย ของมหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด เมื่อมีการทดลองใช้งาน ARPANET จนได้ผล ที่น่าพอใจแล้ว กระทรวงกลาโหมของสหรัฐ ก็ได้ขยายเครือข่าย ARPENET ออกไป โดยเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัยอื่น ๆ รวม 50 แห่งในปี พ.ศ. 2515

. . . . เครือข่ายของ ARPANET ในขณะนั้น ใช้งานเพื่อ การค้นคว้า และวิจัยทางทหาร เป็นส่วนใหญ่ โดยคอมพิวเตอร์ ที่ต่อเข้า กับเครือข่ายของ ARPANET จะมีมาตรฐาน การรับส่งข้อมูลอันเดียวกัน เรียกว่า Network Control Protrol (NCP) เป็นส่วนควบคุม การรับส่งข้อมูล, การตรวจสอบ ความผิดพลาดในการส่งข้อมูล และเปรียบเสมือนตัวกลาง ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ทุกเครื่องเข้าด้วยกัน

. . . . อย่างไรก็ตาม NCP ที่ใช้ใน ขณะนั้น ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ มีข้อจำกัดในด้านจำนวน เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ต่อเข้ากับ ARPANET ทำให้ขยายจำนวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ออกไปมาก ๆ ไม่ได้ จึงได้เริ่มมีการพัฒนา มาตรฐานการรับส่ง ข้อมูลแบบใหม่ขึ้น

. . . . จนกระทั่งในปี พ.ศ.2525 ได้มีมาตรฐานใหม่ออกมา เรียกว่า Transmission Control Protocol/Internet protocol หรือ โปรโตคอล แบบ TCP/IP ซึ่งถือว่า เป็นก้าวสำคัญที่ ARPANET ได้วางรากฐาน ไว้ให้กับอินเตอร์เน็ต เพราะจากมาตรฐาน รับส่งข้อมูลแบบ TCP/IP นี้ ทำให้คอมพิวเตอร์ต่างชนิดกัน สามารถรับข้อมูลไปมา ระหว่างกันได้
และนับเป็นหัวใจของอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว โปรโตคอล TCP/IP ได้รับ การยอมรับ อย่างกว้างขวางในปีถัดมา คือปี 2526 และถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของระบบปฏิบัติการ UNIX เวอร์ชั่น 4.2

. . . . จำนวนคอมพิวเตอร์ในเน็ตเวิร์ต ได้เพิ่มขึ้นจาก 236 เครื่องในปี 2525 มาเป็น 500 เครื่องในปี 2526 และเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 เครื่องในปี 2527

. . . . ต่อมา ในปี 2529 มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ National Science Foundation (NSF) ของประเทศสหรัฐ อเมริกา ได้วางระบบเครือข่าย มาอีกระบบหนึ่ง เรียกว่า NSFNET ซึ่งประกอบซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จำนวน 5 เครื่องใน 5 รัฐ เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพื่อใช้ประโยชน์ทางการศึกษา และค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ และได้ใช้ โปรโตคอล TCP/IP เป็นมาตรฐาน ในการรับส่งข้อมูลเช่นกัน ทำให้การขยายตัวของเน็ตเวิร์ต เป็นไปอย่างรวดเร็ว

. . . . เนื่องจากมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษา มีความต้องการที่จะเชื่อมต่อ เข้ากับ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้งานซูเปอร์คอมพิวเตอร์คุ้มค่าที่สุด และสามารถแลกเปลี่ยน ข้อมูลระหว่างกันได้ ประกอบกับการรับส่งข้อมูล ก็ใช้มาตรฐานเดียวกัน จำนวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย จึงเพิ่มขึ้นเป็น 5,000 เครื่อง

. . . . นอกจาก ARPANET และ NSFNET แล้วยังมีเครือข่ายอื่น ๆ อีกหลายเครือข่าย เช่น UUNET, UUCP, BITNET, CSNET ซึ่งต่อมา ก็ได้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยมี NSFNET เป็นเครือข่ายหลัก เปรียบเสมือน กระดูกสันหลังหรือ backbone ของระบบ จำนวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ ในเครือข่าย จึงได้เพิ่มเป็นกว่า 20,000 เครื่องในปี 2530 และก้าวกระโดด อย่างรวดเร็วเป็น 100,000 เครื่องในปี 2532

. . . . หลังจากที่ ARPANET ได้รวมเข้ากับ NSFNET แล้วในปี 2530 เครือข่ายก็ค่อย ๆ ลดบทบาทลง เนื่องจากการเปลี่ยนไปใช้ความสามารถของ NSFNET แทน จนกระทั่งในปี 2533 ก็เลิกใช้โดยสิ้นเชิง แต่จำนวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ในเครือข่าย ก็ยังคงเพิ่มขึ้น แบบทวีคูณต่อไป และในปี 2534 ก็ได้มีการจักตั้งสมาคม CIX (Commercial Internet Exchange) ขึ้น โดยขณะนั้น มีเครื่องคอมพิวเตอร์รวมกว่า 600,000 เครื่องในระบบ และเมื่ออินเตอร์เน็ต มีอายุครบรอบ 25 ปี คือในปี พ.ศ. 2537 จำนวนเครื่อง คอมพิวเตอร์ ก็พุ่งขึ้นสูงกว่า 2,000,000 เครื่อง

. . . . ปัจจุบันประมาณกันว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกที่เชื่อมต่ออยู่ในอินเตอร์เน็ต มีเกือบสิบล้านเตรื่อง ที่ทำหน้าให้บริการ ข้อมูลข่าวสาร, รับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ และมีคนใช้งานอินเตอร์เน็ต ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ที่ต่อเชื่อมเข้ามา ไม่ต่ำกว่าวันละหลายสิบล้านคน ทั้งหมดนี้คือ ประวัติความเป็นมาโดยสังเขป ของอินเตอร์เน็ต จากจุดเริ่มต้นจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน


-----------------------------------------------------------------------------------

ประโยชน์ของอินเตอร์เน็ต

.. . . . ตามที่กล่าวมาแล้วว่า อินเตอร์เน็ต คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ครอบคลุม ไปทั่วโลก พร้อมกับมีข้อมูลมหาศาล ทุกประเภท ให้เราค้นคว้า และรับส่งข้อมูล ไปมาระหว่างกันได้ ในตอนนี้ จะขอยกตัวอย่างประโยชน์ ของการใช้งานอินเตอร์เน็ต ด้านต่าง ๆ ให้เห็นพอสังเขป

. . . . ในด้านการศึกษา เราต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นคว้าหาข้อมูลได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลทางวิชาการจากที่ต่าง ๆ ซึ่งในกรณีนี้ อินเตอร์เน็ต จะทำหน้าที่เหมือนห้องสมุด ขนาดยักษ์ ส่งข้อมูลที่เราต้องการ มาให้ถึงบนจอคอมพิวเตอร์ที่บ้านหรือที่ทำงานของเรา ไม่กี่วินาทีจากแหล่งข้อมูลทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม ศิลปกรรม สังคมศาสตร์ กฎหมายและอื่นๆ

. . . . อีกส่วนที่เกี่ยวข้องกันก็คือ ประโยชน์การรับส่งข่าวสาร ผู้ใช้ที่ต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต สามารถรับส่งจดหมายอิเล็กตรอนิกส์ หรือ E-mail กับผู้ใช้คนอื่นๆ ทั่วโลก ในเวลาอันรวดเร็ว ได้โดยค่าใช้จ่ายต่ำมาก นอกจากนี้ ยังอาจส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฟ้มข้อมูล รูปภาพ ข้อมูลแบบมัลติมีเดีย ที่เป็นภาพและเสียง ได้อีกด้วย

. . . . สำหรับด้านธุรกิจและการค้า ช่วยในการซื้อขายสินค้าผ่านคอมพิวเตอร์ เราสามารถเลือกดูสินค้า พร้อมคุณสมบัติผ่านจอคอมพิวเตอร์ของเรา และสั่งซื้อ และจ่ายเงินด้วย บัตรเครดิตได้ทันที ซึ่งนับว่าเป็นความสะดวกสบาย และรวดเร็วมาก สินค้ามีจำหน่าย ทุกประเภท เหมือนห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ เลยทีเดียว

. . . . นอกจากนี้ ผู้ใช้ ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ หรือ สนับสนุน ลูกค้าของตน ผ่านอินเตอร์เน็ต เช่น การตอบคำถาม หรือข้อสงสัยต่าง ๆ ให้คำแนะนำ รวมถึงข่าวสารใหม่ๆแก่ลูกค้าได้

. . . . ประโยชน์อินเตอร์เน็ต ที่ผู้ใช้กันมากที่สุดอีกอย่างหนึ่ง คือ ความบันเทิง และการ พักผ่อนหย่อนใจ หรือสันทนาการ เช่น เลือกอ่านวารสารต่างๆ ผ่านอินเตอร์เน็ต ที่เรียกว่า magazine แบบ online รวมถึงหนังสือพิมพ์ และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบบนจอคอมพิวเตอร์ เหมือนกับหนังสือ ปกติที่เราดูอยู่กันทุกวัน

. . . . นอกเหนือจากประโยชน์ต่าง ๆ ที่กล่าวมา ซึ่งล้วนแต่เป็นในมุมมอง ของผู้ใช้ข้อมูล หรือบริการทั่ว ๆ ไป แล้ว ในแง่ของผู้ให้ข้อมูล เช่น ผู้ผลิตสินค้า และบริการต่าง ๆ อินเตอเน็ตก็มีประโยชน์ตรงที่ เป็นช่องทางสำหรับ การเผยแพร่ข้อมูลของตนเอง ได้ในวงกว้าง ด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ แถมยังสามารถเข้าถึง กลุ่มคนที่ใช้งานอินเตอร์เน็ต (ซึ่งนับได้ว่าเป็น"หัวกะทิ" ของกลุ่มลูกค้า เป้าหมาย ที่น่าจะมีกำลังซื้อมากพอสมควร) ได้โดยตรง การโฆษณาเผยแพร่ เรื่องต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต จึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเป็นช่องทาง
หรือเวทีในการแสดงความคิดเห็น ถกเถียงแลกเปลี่ยนทัศนะในเรื่อง ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ฯลฯ ที่สามารถตอบโต้กันได้ ชนิดทันต่อเหตุการณ์ หรือความเปลี่ยนแปลง และค่อนข้าง จะเป็นอิสระ ต่อการควบคุม หรือกลั่นกรอง ขององค์กรหรือหน่วยงานในภาครัฐ ของแต่ละประเทศ

. . . . ว่ากันว่า ความล่มสลายของสหภาพโซเวียต หรือความเปลี่ยนแปลง ทางการเมืองอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก มีส่วนมาจาก ข่าวสารขอ้มูลของโลกภายนอก ที่ผ่านเข้ามาในบริเวณเหล่านั้น ผ่านทาง เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และรวมถึงอินเตอร์เน็ตด้วย อย่างไรก็ตาม ความง่าย ราคาถูก และรวดเร็วของโฆษณา เผยแพร่ทาง อินเตอร์เน็ต บางครั้งก็มีผลในทางตรงกันข้าม กลายเป็นการ เปิดโอกาส ให้ใคร ๆ ก็สามารถเผยแพร่ขอ้มูล ในเรื่องที่ไม่ดีไม่งาม หรือให้ร้ายผู้อื่นได้โดยง่าย โดยลงทุนลงแรงเพียงเล็กน้อย แถมยังมีผล ในวงกว้างไปทั่วโลกอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2551

สร้างผลงานจากเศษซากคอมพิวเตอร์

สร้างผลงานจากเศษซากคอมพิวเตอร์
มาดูดิค่ะ.....น่าสนใจน่ะ




-----------------------------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------------------------------------

-------------------------------------------------------------------------------------

-----------------------------------------------------------------------------------

--------------------------------------------------------------------------------

----------------------------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------------------------------

---------------------------------------------------------------------------------

-----------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551

socia Network

Social Network คือการที่ผู้คนสามารถทำความรู้จัก และเชื่อมโยงกันในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง หากเป็นเว็บไซต์ที่เรียกว่าเป็น เว็บ Social Network ก็คือเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกันนั่นเอง ตัวอย่างของเว็บประเภทที่เป็น Social Network เช่น Digg.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เรียกได้ว่าเป็น Social Bookmark ที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง และเหมาะมาก ที่จะนำมาเป็นตัวอย่าง เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น โดยในเว็บไซต์ Digg นี้ ผู้คนจะช่วยกันแนะนำ url ที่น่าสนใจเข้ามาในเว็บ และผู้อ่านก็จะมาช่วยกันให้คะแนน url หรือข่าวนั้น ๆ เป็นต้น



ภาพประกอบโดย mandymaarten

สำหรับตัวอย่าง Social Network อื่น ๆ เช่น Hi5 หรือว่า Facebook ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น social network เต็มรูปแบบอีกอย่างหนึ่ง ที่ให้ผู้คนได้มามีพื้นที่ ได้ทำความรู้จักกันโดยเลือกได้ว่า ต้องการทำความรู้จักกับใคร หรือเป็นเพื่อนกับใคร

เมื่อหันมามองเว็บไซต์ไทย ๆ กันดูบ้าง หากมองว่าเว็บไซต์ Social Network ในไทย จะมีเว็บไหนได้บ้าง ลองดูเว็บไซต์ Social Network ที่มีความชัดเจนในเนื้อหาเฉพาะด้าน เช่น Social Network เรื่องท่องเที่ยว อย่างเว็บไซต์ odoza (โอโดซ่า) ที่ให้คนที่ชื่นชอบในเรื่องท่องเที่ยว ได้มาทำความรู้จักกัน ได้มีพื้นที่ให้ share รูปภาพ หรือวีดีโอคลิป ที่ตนเองได้ไปเที่ยวมาได้่

ขั้นตอนกานทำโครงงาน..คอมพิวเตอร์

ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน เมื่อผู้เรียนได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ และเลือกเรื่องที่จะทำโครงงานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวางแผนการทำโครงงานทุกขั้นตอน โคยปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว จึงเขียนเค้าโครงของโครงงานเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดและแนวทาง ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ในการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้เรียน อาจารย์ และผู้เกี่ยวข้อง นอกจากจะต้องใช้หลักการทางวิชาการแล้ว ยังจำเป็นต้องมีข้อตกลงและเงือนไขต่างๆ ด้วย เช่น การขออนุญาตใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การจัดหาลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ เครื่องมือและตัวแปลภาษาโปรแกรม เป็นต้น เพื่อช่วยให้การทำโครงงานดำเนินไปอย่างราบรื่น
4. การลงมือทำโครงงาน
5. การเขียนรายงาน
6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน เมื่อผู้เรียนได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ และเลือกเรื่องที่จะทำโครงงานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวางแผนการทำโครงงานทุกขั้นตอน โคยปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว จึงเขียนเค้าโครงของโครงงานเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดและแนวทาง ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ในการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้เรียน อาจารย์ และผู้เกี่ยวข้อง นอกจากจะต้องใช้หลักการทางวิชาการแล้ว ยังจำเป็นต้องมีข้อตกลงและเงือนไขต่างๆ ด้วย เช่น การขออนุญาตใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การจัดหาลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ เครื่องมือและตัวแปลภาษาโปรแกรม เป็นต้น เพื่อช่วยให้การทำโครงงานดำเนินไปอย่างราบรื่น
4. การลงมือทำโครงงาน
5. การเขียนรายงาน
6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน


ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์

1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
3. จัดทำเค้าโครงของโครงงาน เมื่อผู้เรียนได้ศึกษาเอกสารอ้างอิงต่างๆ และเลือกเรื่องที่จะทำโครงงานคอมพิวเตอร์ รวมทั้งวางแผนการทำโครงงานทุกขั้นตอน โคยปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้ทรงคุณวุฒิแล้ว จึงเขียนเค้าโครงของโครงงานเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดและแนวทาง ตลอดจนข้อตกลงต่างๆ ในการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้เรียน อาจารย์ และผู้เกี่ยวข้อง นอกจากจะต้องใช้หลักการทางวิชาการแล้ว ยังจำเป็นต้องมีข้อตกลงและเงือนไขต่างๆ ด้วย เช่น การขออนุญาตใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ การจัดหาลิขสิทธิ์ของซอฟต์แวร์ เครื่องมือและตัวแปลภาษาโปรแกรม เป็นต้น เพื่อช่วยให้การทำโครงงานดำเนินไปอย่างราบรื่น
4. การลงมือทำโครงงาน
5. การเขียนรายงาน
6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน



โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกมัธยม เชียงใหม่
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2544
กลุ่มวิชา การงานพื้นฐานอาชีพ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2
วิชา คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์ (โครงงานคอมพิวเตอร์) รหัสวิชา ช.02139
ผู้สอน ม.ยุทธศักดิ์ สินธุพงศ์
----------------------------------------------------------------------------------


คะแนนรวม 100 คะแนน
คะแนนจิตพิสัย 10 คะแนน
คะแนนเก็บ 60 คะแนน
คะแนนสอบ 30 คะแนน

คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาวิเคราะห์ เนื้อหางาน ลำดับรูปแบบงาน การประยุกต์วิชาการ คอมพิวเตอร์และวิชาต่าง ๆ ที่เรียนมา จัดทำโครงงานขนาดเล็ก เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างโครงงานคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กได้

จุดประสงค์รายวิชา (กรณีทำโครงงาน โดยสร้าง Home Page ด้วยภาษา HTMLและJavaScript)
1. ให้มีความรู้เกี่ยวกับ Internet ภาษา HTMLและชุดคำสั่งพิเศษ JavaScript
2. ให้มีทักษะกระบวนการความคิดเชิงระบบในการวางแผนการทำงาน
3. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กได้
4. สามารถสร้าง Home Page ด้วยภาษา HTML และแทรกชุดคำสั่งJavaScript เป็นโครงงานขนาดเล็กได้
5. มีความสามารถในการแสดงออกด้วยการนำเสนอผลงานที่ทำได้
6. สามารถทำผลงานที่ได้จากการบูรณาการประสบการณ์ทางความรู้ความคิดได้
7. สามารถจัดทำเอกสารประกอบโครงงาน และรายงานโครงงานได้



ความหมายและคุณค่าของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของทุก ๆ สังคมในโลกปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีด้านนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลาและเป็นสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์คุ้มค่าอีกด้วย ดังนั้นการศึกษาเทคโนโลีของคอมพิวเตอร์จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็นสำคัญ

การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งจำเป็นเสมือนกับการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงโลกของเราในด้านต่าง ๆ มากมายได้แก่
- สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
- การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
- คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญแทนเครื่องมืออื่น ๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลขเป็นต้น
- คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่าง ๆ
- คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน

นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาเรียนวิทยาศาสตร์ธรรมชาติเพื่อความเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติในโลก ในทำนองเดียวกันนักเรียนต้องเรียนวิชาทางวิทยาการคอมพิวเตอร์เพื่อความเข้าใจในสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของสังคมต่าง ๆ ในยุคสารสนเทศ เนื้อหาวิชาทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษามีเป้าหมายที่จะพัฒนานักเรียนให้มีความรู้ความเข้าใจในวิทยาการของคอมพิวเตอร์และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ ดังนั้นการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทำให้นักเรียนสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์

จุดมุ่งหมายที่สำคัญประการหนึ่งของการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ในโรงเรียน คือการที่นักเรียนได้มีโอกาสฝึกความสามารถในการนำความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือการที่นักเรียนได้มีโอกาสทำโครงงานคอมพิวเตอร์



โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นงานวิจัยในระดับนักเรียน เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่าง ๆ เพื่อนำผลที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือใช้เพื่อช่วยสร้างสื่อเพื่อเสริมการเรียนให้ได้ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงานคอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ทักษะการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่าง ๆ ในการแก้ปัญหา รวมทั้งการพัฒนาการสร้างผลงานจริงอีกด้วย

โครงงานคอมพิวเตอร์ในระดับชั้นมัธยมศึกษาเป็นกิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ กระบวนการทางวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และวัสดุอุปกรณ์ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน โครงงานบางเรื่องอาจต้องการวัสดุอุปกรณ์นอกเหนือจากที่มีอยู่ ซึ่งนักเรียนจะต้องคิดออกแบบสร้างขึ้น หรือดัดแปลงเพื่อใช้งานได้ตรงกับความต้องการ โดยในการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์จะอยู่ภายใต้การดูแลและให้คำปรึกษาของครูในสาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรือต่างสาาวิชารวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่าง ๆ ด้วย

โครงงานคอมพิวเตอร์ที่จะทำในระดับมัธยมศึกษาควรเป็นประเด็นหรือปัญหาที่นักเรียนสนใจใคร่รู้ และสามารถใช้ความรู้ ทักษะ ตลอดจนประสบการณ์ในระดับของนักเรียน เพื่อคิดแนวทางในการแก้ปัญหาและการพัฒนาโปรแกรม เพื่อให้โครงงานคอมพิวเตอร์นั้นมีคุณค่ายิ่ง อย่างไรก็ตาม เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดที่จะทำโครงงานอาจมีผู้สนใจทำมาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนามาแล้ว แต่นักเรียนก็ยังสามารถทำโครงงานดังกล่าวได้ เพียงแต่คิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้

กิจกรรมที่จัดว่าเป็นโครงานคอมพิวเตอร์ควรมีองค์ประกอบหลักดังต่อไปนี้
- เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับซอต์ฟแวร์และเครื่องคอมพิวเตอร์
- นักเรียนเป็นผู้ริเริ่มและเลือกเรื่องที่จะศึกษาค้นคว้า พัฒนาด้วยตนเองตามความสนใจและระดับความรู้ความสามารถ
- นักเรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า ตลอดจนการพัฒนาเก็บรวบรวมข้อมูลหรือประดิษฐ์คิดค้น รวมทั้งการสรุปผล และการนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีครูอาจารย์หรือผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คำปรึกษา



การทำโครงงานคอมพิวเตอร์มีของเขตกว้างขวางมาก ตั้งแต่เรื่องที่ง่าย ๆ ไปจนถึงเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน โครงงานคอมพิวเตอร์บางเรื่องอาจใช้เวลาสั้นในการพัฒนา จนถึงเรื่องที่ใช้เวลาเป็นภาคเรียนหรือปีการศึกษา โครงงานคอมพิวเตอร์บางเรื่องเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยจนถึงนับพันบาท นักเรียนจึงควรศึกษารายละเอียดและงบประมาณต่างๆ ของโครงงานก่อน จึงค่อยเลือกทำโครงงานที่เหมาะสมกับระดับความรู้ ความสามารถ และความสนใจของนักเรียน โดยทั่ว ๆ ไป การทำโครงงานคอมพิวเตอร์จัดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนรายวิชาคอมพิวเตอร์ทุกระดับการศึกษา โดยอาจจะทำเป็นกลุ่มหรอทำเป็นรายบุคคล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจของนักเรียนแต่ละคนแต่ละกลุ่มเป็นสำคัญ

จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานคอมพิวเตอร์ไม่ได้อยู่ที่การส่งเข้าประกวดเพื่อรับรางวัล แต่เป็นโอกาสที่นักเรียนจะได้ประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ตลอดจนการแสดงผลงานของตนเองเพื่อให้นักเรียน ผู้ปกครองและผู้ที่สนใจในชุมชนเมื่อมีการจัดกิจกรรมของโรงเรียนหรืองานอื่น ๆ

การทำโครงงานคอมพิวเตอร์และการจัดงานแสดงโครงงานจะมีคุณค่าต่อการฝึกฝนให้นักเรียนมีความรู้ ความชำนาญ และมีความมั่นใจในการนำระบบคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้นหรือค้นคว้าหาความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเองและยังมีคุณค่าอื่น ๆ อีกดังต่อไปนี้
1. สร้างความสำนึกและความรับผิดชอบในการศึกษาและพัฒนาระบบด้วยตนเอง
2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง
3. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรู้ในเรื่องที่นักเรียนสนใจได้ลึกซึ้งกว่าการเรียนในห้องตามปกติ
4. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการคิด การแก้ปัญหา การตัดสินใจ รวมทั้งการสื่อสารระหว่างกัน
5. กระตุ้นให้นักเรียนมีความสนใจในการเรียนวิชาสาขาคอมพิวเตอร์ และมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพทางด้านนี้
6. ส่งเสริมให้นักเรียนได้ใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์
7. สร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครูและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมให้ชุมชนสนใจคอมพิว เตอร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
8. เป็นการบูรณาการเอาความรู้จากวิชาต่าง ๆ ที่ได้รับมาจัดทำผสมผสานกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นโครงงานเพื่อนำเสนอต่อชุมชน

การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์นั้น นักเรียนควรมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เหตุผลที่ใช้ในการแก้ปัญหา กระบวนการแก้ปัญหา หลักการเขียนโปรแกรมเบื้องต้น และการแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มทำโครงงาน และใช้ความรู้ดังกล่าวเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ใหม่ในโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยในการทำโครงงานนักเรียนอาจจะมีโอกาสได้ทำความรู้จักกับความรู้ใหม่เพิ่มเติมอีกด้วย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ฐานข้อมูล (Database) และการสืบค้นข้อมูล (Information Retrieval) เป็นต้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับหัวข้อที่นักเรียนเลือกทำโครงงาน

Top

ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรมและลักษณะของประโยชน์หรือผลงาที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)

1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานทีใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวนและคำถามคำตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทำความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่าง เช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ

2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเรื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สำหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนำไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สำหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สำหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D

Top

3. โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment)
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจำองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทำต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจำลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคำอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการจำลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทำโครงงานประเภทนี้มีจุดสำคัญอยู่ที่ผู้ทำต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น

4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สำหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สำหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อนแล้วนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทำงานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย

5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคำนวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้ป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกล่มต่าง ๆ

Top

วิธีดำเนินการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมีความสำคัญต่อโครงงานนั้น ๆ การแบ่งขั้นตอนของการทำโครงงานอาจแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงานและการวางแผนการทำโครงงานในที่นี้จะบ่งการทำงานออกเป็น 6 ขั้นตอนดังนี้

1. การคัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจทำ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่าง ๆ จากการสังเกตสิ่งต่าง ๆ รอบตัว นักเรียนสามารถจะศึกษาการได้มาของเรื่องที่จะทำโครงงาน การอ่านค้นคว้า การไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ การฟังบรรยาย รายการวิทยุโทรทัศน์ สนทนาอภิปราย กิจกรรมการเรียนการสอน งานอดิเรก การเข้าชมงานนิทรรศการหรืองานประกวดโครงงานคอมพิวเตอร์ ในการตัดสินใจเลือกหัวข้อที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์

ควรพิจารณาองค์ประกอบสำคัญดังนี้
- จะต้องมีความรู้และทักษะพื้นฐานอย่างเพียงพอในหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา
- สามารถจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องได้
- มีแหล่งความรู้เพียงพอที่จะค้นคว้าหรือขอคำปรึกษา
- มีเวลาเพียงพอ
- มีงบประมาณเพียงพอ
- มีความปลอดภัย

2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
รวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิช่วยจะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดของเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งความรู้เพิ่มเติมในเรื่งที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสมในการศึกษาค้นคว้าดังกล่าว นักเรียนจะต้องบันทึกสรุปสาระสำคัญไว้ด้วย
จะต้องพิจารณาดังนี้ มูลเหตุจูงใจและเป้าหมายในการทำ วัสดุอุปกรณ์ ความต้องการของผู้ใช้งานและคุณลักษณะของผลงาน (Requirement and Specification) วิธีการประเมินผล วิธีการพัฒนา ข้อสรุปของโครงงาน ความแปลกใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ แนวทางในการปรับปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดิม

Top

3. การจัดทำเค้าโครงของโครงงานที่จะทำ จำเป็นต้องกำหนดกรอบแนวคิดและวงแผนการพัฒนาล่วงหน้าเพื่อคาดการณ์ความเป็นไปได้ของโครงงาน ขั้นตอนที่สำคัญคือ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล ออกแบบการพัฒนา เสนอเค้าโครงของโครงงานต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอคำแนะนำและปรับปรุงแก้ไข

4. การลงมือทำโครงงาน เมื่อเค้าโครงได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการพัฒนาตามขั้นตอนที่ได้วางแผนไว้ดังนี้ เตรียมการ ลงมือพัฒนา ตรวจสอบผลงานและแกไข อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ แนวทางในการพัฒนาโครงงานในอนาคต

5. การเขียนรายงาน เป็นสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวความคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนควรใช้ภาษาที่อ่านเข้าใจได้ง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมาให้ครอบคลุมหัวข้อต่าง ๆ

6. การนำเสนอและการแสดงผลงานของโครงงาน เป็นการนำเสนอเพื่อแสดงออกถึงผลิตผลของความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีที่ให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจในโครงงานนั้น ในการเสนออาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น ติดโปสเตอร์ การรายงานตัวในที่ประชุม การแสดงผลงานด้วยสื่อต่าง การจัดนิทรรศการ การอธิบายด้วยคำพูด

การจัดทำรายงานเอกสารคู่มือ


บทที่1. ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบไปด้วย
ชื่อโครงงาน
ชื่อสาขาของงานวิจัย
ชื่อผู้ทำโครงงาน
ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
คำขอบคุณ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือจากหลายฝ่าย จึงควรกล่าว
ขอบคุณบุคลากรหรือหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนช่วยให้โครงงานนี้สำเร็จ
บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้ตลอดจนข้อสรุป
ต่าง ๆ อย่างย่อ (ประมาณ 250 - 400 คำ)

บทที่ 2. บทนำ เป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
ของเขตของโครงงาน

บทที่ 3. หลักการและทฤษฎี
เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จำนำมาใช้
ในการพัฒนา ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย

บทที่ 4. วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้แก้ไขปัญหา
พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน

Top

บทที่ 5. ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจจะเสดงเป็นกราฟ ตาราง ข้อความ หรือแต่ละหน้าจอภาพ

บทที่ 6. สรุปและข้อเสนอแนะ
อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำงาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัด
ค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนี้ยังควรกล่าวถึงการนำผลการทดลองหรือพัฒนาไป
ใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญหรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้น
จากการทำโครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่อง
ทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย

บทที่ 7. ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำเสนอ
ผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย

บทที่ 8. บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร และเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ผู้ทำโครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อ
ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่าง ๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำโครงงานนี้

บทที่ 9. คู่มือการใช้งาน หากโครงงานที่นักเรียนจัดทำเป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธี
การใช้งานผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
ชื่อผลงาน
ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์
รายละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องมี
ความต้องการของซอฟต์แวร์
คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำหน้าที่อะไร รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่งอะไรเป็นข้อมูลขาออก
วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน ว่าจะต้องกดคำสั่งใดหรือปุ่มใด ข้อแนะนำในการใช้งาน เพื่อให้ผลงานนั้นสามารถทำงานได้ดีที่สุด

Top

Utility program คืออะไร

Utility Program (s)

Utility Program หมายถึง โปรแกรมที่ช่วยให้การทำงานของคอมพิวเตอร์ หรือเสริมโปรแกรมการใช้งานอื่นๆ ให้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น บางโปรแกรมก็ช่วยเสิรมความสามารถพิเศษให้กับคอมพิวเตอร์ เช่น สามารถรับส่งแฟ๊กซ์ได้ เป็นต้น โปรแกรมที่เรานำมาแนะนำนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุก ๆ ท่าน ดังนั้น ไม่อยากให้พลาดที่จะแวะเข้าไปศึกษาโปรแกรมดู...


166Floppy v2.1
อีกหนึ่ง utiity โปรแกรมที่ช่วยในการ format disk 3.5' ซึ่งปกติจะได้ความจุประมาณ 1.44 mb ให้กลายเป็น 1.66 mb สามารถเพิ่มพื้นที่ในการ สนใจจะทดลองนำไปใช้ได้ ครับ เป็นโปรแกรม freeware ครับ...


2xExplorer R7
ฟรี utility โปรแกรมที่น่าใช้งานมากตัวหนึ่ง ลักษณะของโปรแกรมจะแบ่ง windows explorer เป็น 2 ส่วน เพื่อใช้ในการสำรองข้อมูล หรือเพื่อย้ายไฟล์ที่ต้องการ ลักษณะของโปรแกรมเหมือนกับโปรแกรม norton commander


32 Bit Fax v9.26.15
โปรแกรมเพิ่มความสามารถให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ ให้สามารถรับ-ส่งแฟ๊กซ์โดยใช้โมเด็มได้ (ตัวเดียวกับใช้เล่น internet) นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Cover Page หรือใบปะหน้าในรูปแบบของคุณเอง รวมทั้งการเก็บรายชื่อแฟ๊กซ์ต่าง ๆ ไว้ใช้ในโอกาสต่อไปได้...


3 Windows Utilities
หลาย ๆ ท่านคงอยากทราบรายละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณว่า มีคุณสมบัติหรือ spec อะไรบ้าง หรือบางท่านอาจมีปัญหากวนใจเช่นเดียวกับผมคือ บางครั้งเราติดตั้งโปรแกรมใด โปรแกรมหนึ่ง หลังจาก uninstall แล้ว ยังปรากฏไอคอนของโปรแกรมนั้น ๆ ค้างอยู่ บางครั้งยังมี error แสดงทุกครั้งที่เปิดเครื่อง น่าปวดหัวเหมือนกัน ลองใช้ utility เด็ด ๆ เหล่านี้ดู อาจช่วยคุณได้บ้าง...


Absolute Control v1.37
ฟรี โปรแกรม utility เล็ก ๆ ที่ช่วยทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกำหนดขนาดหน้าจอ สั่ง power off หน้าจอ และในส่วนของ Windows (XP) นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการเปิดและเปิด CD-ROM drive ได้ด้วย..


Acrobat Reader v6.0
Portable Document Format (PDF) คือไฟล์ประเภทหนึ่งในถูกสร้างมาจากโปรแกรม Adobe Acrobat เหมาะสำหรับการทำตัวอย่าง Manual, Sample Picture ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ เนื่องจากไฟล์ที่ได้มีคุณภาพสูงมาก สามารถตั้ง index, Search ข้อมูลต่าง, สร้าง Link จากรูปภาพ, ทำการ Zoom in, Zoom out ได้ด้วย ปัจจุบัน support การอ่านข้อมูลทาง web page และที่สำคัญโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมที่สามารถ download มาใช้งานได้ฟรี


AntiCrash v5.0
โปรแกรมป้องกันการ Crash หรือ Hank ใน Windows ตัวโปรแกรมจะรันในลักษณะ background และทำการตรวจสอบโปรแกรมที่ถูกเรียกใช้งาน สามารถซ่อน icon บนหน้าจอ desktop ได้ด้วย นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องคอมฯ ของเราด้วย..


Asap Utilities v3.01
โปรแกรม Add-On ใน Microsoft Excel ช่วยให้การทำงานใน Excel ได้สะดวก มี funtions ช่วยในการทำงานมากกว่า 300 utilties แถมโปรแกรมเป็น freeware (แจกฟรี) เหมาะสำหรับนักบัญชี หรือผู้ใช้งาน Microsoft Excel เชิญศึกษารายละเอียดก่อนตัดสินใจนำไปใช้ได้ค่ะ


Auto Shutdown
Utility โปรแกรมช่วยในการจัดการเกี่ยวกับการ Shutdown, Cleanup และตั้งเวลาการจัดการ version ที่ทดสอบนี้คือ v3.81


Band Width Monitor
คุณเป็นผู้หนึ่งที่เล่นอินเตอร์เน็ตใช่ไหม ถ้าใช่ คุณเคยอยากทราบไหมว่าความเร็วในการเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่เราใช้ Modem 56K และโทรเข้าไปยังโทรศัพท์ของ ISP ที่ความเร็ว 56K ทำไมบางครั้งก็เร็ว บางครั้งก็ช้า อยากทราบความเร็วที่แท้จริง ลองใช้โปรแกรมนี้ดูซิครับ!


BigFix v1.6.1.6
ฟรี โปรแกรมในการตรวจสอบ bug ป้องกันในเรื่อง security ป้องกันการ crash เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการตรวจสอบตลอดเวลา และถ้าโปรแกรมตรวจพบปัญหาจะมีสัญญาณแจ้งให้ทราบทันที..


BK ReplaceEM v2.0
ฟรี utility โปรแกรมสำหรับการเปลี่ยนข้อความ หรือเปลี่ยนขนาดของตัวอักษร โดยใช้แทน search และ replace ซึ่งจะได้ครั้งละไฟล์ เท่านั้น แต่โปรแกรมนี้สามารถเปลี่ยนพร้อม ๆ กันได้หลาย ๆ ไฟล์ และสามารถกำหนดเงื่อนไงได้หลายรูปแบบด้วย.. และที่สำคัญรองรับการทำงานภาษาไทยด้วย เหมาะสำหรับ webmaster, programmer


BySoft FreeRam v3.0
ฟรี โปรแกรมช่วยจัดการ memory โดยจะเข้าลบการใช้งานของหน่วยความจำ ที่ไม่มีการใช้ ช่วยทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น ลดปัญหาการ hang สามารถกำหนดให้รันอัตโนมัติ หรือรันแบบกำหนดเองได้ ใช้งานได้ทั้ง 98 และ NT


CacheMan v4.1
โปรแกรม CacheMan 4.1 นี้เป็นโปรแกรมที่จะช่วยในการปรับแต่งหน่วยความจำให้คุณ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องหน่วยความจำ (ถ้ารู้ก็จะดีกว่า) เพียงแค่ติดตั้งและเลือกประเภทของ Windows และประเภทการใช้งานของคุณ เพียงเท่านี้โปรแกรมก็จะปรับแต่งหน่วยความจำให้อัตโนมัติ สนใจแล้วใช่ไหม เชิญศึกษาเพิ่มเติมได้เลยครับ...


Cache Speed v2.01
ฟรี โปรแกรมปรับแต่ง cache ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณ ได้หลายสิบเปอร์เซ็นต์ สามารถปรับแต่งให้อัตโนมัติ หรือจะปรับแต่งด้วยตัวเองก็ได้ อยากรู้ว่าดีอย่างไร เชิญทดลอง download ไปใช้งานดู อีกหนึ่งของฟรีบน internet ที่อยากแนะนำ แจ๋วจริง ๆ ...


CD Check v2.0.2.272
ฟรี โปรแกรมในการตรวจสอบไฟล์ในแผ่น CD ที่มีขนาดเล็กมาก ไม่จำเป็นต้อง install หรือ setup ใด ๆ สามารถเลือกตรวจสอบเป็นบางไฟล์ได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำการเกี่ยวกับแผ่น CD หรือผู้ที่เตรียมจะทำการ write CD เพื่อตรวจสอบไฟล์ให้แน่ชัดก่อนว่าไม่มีปัญหาในการ write CD แผ่นอื่นๆ


CFSC Cleaner v2.0
ฟรีแวร์! ที่ช่วยในการ setup/uninstall โปรแกรม สามารถค้นหา ตรวจสอบ และแสดงขนาดของโปรแกรมที่เราต้องการได้ในรูปแบบของ Pie กราฟ นอกจากนี้ยังแสดงวันที่ที่มีการติดตั้ง รวมทั้งไฟลเดอร์ที่เก็บโปรแกรมได้อีกด้วย...


Check Printer v5.0
ฟรี โปรแกรมที่ช่วยในการพิมพ์เช็ค ใช้งานได้ทุกสกุลเงิน เลือกพิมพ์วันที่เป็นภาษาไทยตามรูปแบบที่ต้องการได้ และเลือกอัตโนมัติได้จากปฏิทินในโปรแกรม ใส่ลายเซ็นต์ก็ได้ ส่วนเรื่องการจัดวางจะมีหน้า layout ให้ปรับแต่งได้ตามความพอใจ..


Clean it
สำหรับนักคอมพิวเตอร์มือใหม่ และมือเก่าที่ยังไม่แน่ใจในการลบไฟล์ขยะ เราขอแนะนำโปรแกรม Clean it โปรแกรม utility ที่จะช่วยกำจัดไฟล์ขยะที่ไม่จำเป็นในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณออกไป ง่าย ๆ เพียง 1-2 ขั้นตอนก็เสร็จแล้ว แถมยังสามารถกำหนดให้โปรแกรมลบไฟล์ขยะให้อัตโนมัติตอนเปิด windows ได้ด้วย


ClipMate v5.3
เวลาที่เรา copy ข้อมูล หรือภาพต่างๆ ใน windows จะสามารถทำได้เพียงครั้งเดียว ถ้ามีการเรียก copy ซ้ำ ข้อมูลที่เคย copy ไปแล้วจะหายไป แต่วันนี้ ปัญหานี้จะหมดไปด้วย ClipMate โปรแกรมคู่ใจสำหรับ Windows อยากทราบความสามารถอื่นๆ เชิญคลิกดู


CoralSoft Win9x/ME Task Manager v1.0
ฟรีโปรแกรสำหรับตรวจสอบการทำงานของ CPU และ Memory สามารถสั่งทำ optimize ได้ นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบว่ามีโปรแกรมใดทำงานอยู่ และถ้าต้องการสั่ง run โปรแกรมอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถทำได้อีกด้วย...


Cpu Idle
หัวใจของคอมพิวเตอร์คือ CPU สิ่งที่ทำให้ CPU มีอายุสั้นก็คือความร้อน ซึ่งเกิดจากการทำงานของ CPU ตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าเราสามารถหยุดหรือลดระยะเวลาการทำงาน CPU บางส่วนในเวลาที่ไม่จำเป็น ย่อมทำให้ CPU มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นได้


DBackup v2.2
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูล และไฟล์สำคัญ ๆ ของเราคือ การสำรองข้อมูล วันนี้ขอแนะนำโปรแกรมแจกฟรีบน อินเตอร์เน็ตที่น่าสนใจตัวหนึ่ง โปรแกรมนี้จะช่วยในการสำรองข้อมูลในลักษณะของ Zip ไฟล์ โดยมี filter ช่วยในการกรองข้อมูล การใช้งานก็ค่อนข้างง่ายและสะดวกมาก.. "กันไว้ดีกว่าแก้"


DeskSweeper v2.0
ฟรี โปรแกรม utility เล็ก ๆ ที่ช่วยในการซ่อนไอคอนบนหน้า desktop ของเรา เพื่อที่จะแสดงภาพ background ได้เต็ม สนใจก็ลอง download ไปใช้ดู support windows ตั้งแต่เวอร์ชั่น 95 ขึ้นไป แม้กระทั่ง Windows XP ก็สามารถใชั้งานได้


Disk Cleaner
ฟรี โปรแกรม utility เล็ก ๆ แต่ช่วยได้มากเลย ความสามารถก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่เป็นโปรแกรมช่วยลบไฟล์ที่ไม่ใช้งาน หรือที่เราเรียกว่า temporary file รวมทั้งสามารถลบ url ในโปรแกรม IE ได้ด้วย ผลก็คือทำให้คอมฯ ของเราทำงานได้ดีขึ้น..


Disk CleanUp v3.9
โปรแกรมตัวนี้ไม่ใช่ Disk CleanUp ที่มีอยู่ภายใน Windows ที่คุณอาจเคยใช้งานแล้ว แต่เป็นโปรแกรม utility เล็ก ๆ ตัวหนึ่งที่ช่วยในการกำจัดขยะภายในคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน การใช้งานโปรแกรมนี้จะมีหน้าต่าง Setting ให้กำหนดรายละเอียดที่ต้องการตามความพอใจได้


Disk Montior v2.12
โปรแกรม utility เล็กๆ สำหรับเตือน และ แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่คงเหลือใน harddisk โดยจะแสดงเป็นสัญญาณไฟ ถ้าไฟเขียว แสดงว่ามีพื้นที่เหลือมากพอ ถ้าสีเหลืองแสดงว่าน้อยเกินไป ถ้าสีแดงแสดงว่าแย่แล้ว นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างแสดงรายละเอียดคร่าวๆ ของเครื่องคอมฯ เช่น cpu, memory display เป็นต้น


Dr. Hardware 2001
เครื่องมือในการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์แบบแยกเป็นชิ้นส่วน คุณสามารถเลือกดูได้ทีละชิ้นส่วน ดูเป็นรูปกราฟ รวมทั้งสามารถทดสอบ เปรียบเทียบคุณสมบัติของ CPU ได้ด้วย การใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดรายละเอียดใด ๆ เพียงแต่ติดตั้ง และรันโปรแกรมเท่านั้น


EditPad Lite v4.3.2
บอกลาโปรแกรม NotePad ใน windows ได้เลย ถ้าคุณได้ลองใช้งาน EditPad ตัวนี้ มีความสามารถพิเศษกว่า NotePad คือ สามารถเปิดไฟล์ได้พร้อมกันมากกว่าหนึ่งไฟล์ ไม่จำกัดขนาดของไฟล์ Text แถมสามารถ convert ไฟล์ได้หลายรูปแบบ รายละเอียดเพิ่มเติม อ่านจากข้อมูลเอาเองดีกว่าค่ะ..


Edit Plus v2.01
โดยปกติผมมักจะใช้ NotePad ในการสร้าง web และผมก็เชื่อว่ายังมี web master อีกหลาย ๆ ท่านก็ยังคงใช้ notepad เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่ไม่จำเป็นต้องไปหาจากที่ไหน Windows ทุกรุ่นแถมมาให้อยู่แล้ว แต่เนื่องจาก Notepad เป็นโปรแกรมที่ไม่ได้ช่วยในการสร้างเวปโดยตรง ดังนั้นจึงไม่มีคำสั่ง หรือตัวช่วยในการสร้างเลย ดังนั้น Edit Plus น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการสร้างเวปในระดับมืออาชีพของคุณได้...


Enzip v3.0
ฟรี โปรแกรม zip ไฟล์ เช่นเดียวกับกับ Winzip, Pkzip ความสามารถก็ไม่แตกต่างจากโปรแกรมเหล่านี้ แต่ที่เห็นว่าน่าสนใจคือ เป็นโปรแกรม Freeware สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี ครับ ทางเราขอสนับสนุนการใช้โปรแกรมถูกต้องตามลิขสิทธิ์ครับ...


Excel Viewer v8.0
หลาย ๆ คนที่เคยใช้ Excel อาจเคยประสบปัญหา หาไฟล์ที่ต้องการไม่พบ จำชื่อไฟล์ไม่ได้ จะเปิดไฟล์ดูทีละตัวก็ใช้เวลานานมาก ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้ ลองใช้โปรแกรมตัวนี้ดู Excel Viewer โปรแกรมช่วยในการดูไฟล์ Excel สามารถดูแบบย่อขยาย รวมทั้งสั่งพิมพ์ได้โดยตรง


Faber Toys v2.3
ฟรีแวร์ อีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้สำหรับการตรวจสอบการทำงานของ Windows ทำให้เราทราบได้ว่ามีอะไรแปลกปลอมเข้ามาหรือไม่ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าไปดูในส่วนของ properties ในแต่ละโปรแกรมแกรมได้ สามารถเข้าไปแก้ไขในส่วนของ program alias ได้อีกด้วย อยากรู้ว่าดีอย่างไร คงต้อง download ไปทดลองได้ดู..


Fine Print 2000
อีกหนึ่งโปรแกรมที่ค่อนข้างชอบเป็นการส่วนตัว Fine Print คือโปรแกรมที่ช่วยในการจัดการเอกสารงานพิมพ์ของเราให้สะดวก ประหยัด ด้วยการจัดการเอกสารที่พิมพ์ให้ออกมาในลักษณะของหนังสือ เช่น พิมพ์เอกสารหลาย ๆ หน้าอยู่ในแผ่นเดียวกัน จัดการตกแต่งเอกสารด้วยการใส่ Header, Footer หรือแม้กระทั่งการใส่ Watermark (ลายน้ำ) เพื่อเพิ่มความโดดเด่นของเอกสารหรืองานพิมพ์ให้ดูดียิ่งขึ้น...


File Split v2.0.1
อีกหนึ่ง ฟรี โปรแกรมสำหรับช่วยในการแบ่งไฟล์ ให้มีขนาดเล็ก เพื่อใช้สำหรับการสำรองข้อมูลลงในแผ่นดิสก์ หรือสื่ออื่น ๆ สามารถเลือกแบ่งได้ตั้งแต่ 1 mb ถึง 100 mb มีคำสั่งในการรวมไฟล์ให้อัตโนมัติด้วย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมนี้


File Splitter v1.0
ฟรี Utility เล็ก ๆ ที่ช่วยจัดการแบ่งไฟล์เป็นขนาดเล็ก ๆ ตั้งแต่ 2 - 99 ไฟล์ ช่วยในการนำไปใช้ในการสำรองข้อมูลขึ้นแผ่นดิสก์ หรือแบ่งไฟล์เป็นขนาดเล็ก เพื่อสะดวกในการส่งผ่านทาง internet โปรแกรมมีขนาดเล็กมาก... การใช้งานค่อนข้างง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน เป็นโปรแกรมที่น่าสนใจดีตัวหนึ่ง..


Font Assist v3.0
บางครั้งเราไปเห็นรูปแบบตัวอักษรสวย ๆ (หรือที่เราเรียกว่า font) และต้องการนำมาใช้ในเอกสารหรือนำมาใช้ตกแต่งในรูปภาพของเรา อาจมีปัญหาว่า ไม่ทราบว่าเป็น font อะไร โปรแกรมนี้จะช่วยคุณได้ เพียงแค่เลือกรูปแบบของ font ที่ต้องการ ดูตาม font ที่ให้มาก็ได้ จากนั้นคลิก Search ดูก็จะพบ font ที่ต้องการ


Font Lister v2.0
Utility โปรแกรมเล็ก ๆ ที่ช่วยผมได้มากทีเดียว โปรแกรมนี้ไม่มีความสามารถพิเศษอื่นใด นอกจากพิมพ์หน้าตาของ Font บนกระดาษ เลือก Font ที่ต้องการได้ แค่นี้ก็ช่วยให้เราทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นแล้ว...


Font2Gif
ฟรี โปรแกรมแปลงข้อความจาก Font สวย ๆ มาเป็นรูปภาพ สามารถใส่สีของข้อความ สี background รวมทั้งทำ Transparent background ได้อีกด้วย การบันทึกสามารถเลือกบันทึกเป็น Gif ไฟล์ หรือจุดูในลักษณะของ web page ก็ได้ด้วย...


Free Meter v2.60
ฟรี โปรแกรมตรวจสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์ของคุณ ตรวจสอบได้ทั้ง CPU, Harddisk Space รวมทั้ง Memory แสดงให้ดูในลักษณะของกราฟ ใช้งานง่ายเพียงรันโปรแกรมทิ้งไว้ นอกจากนี้ยังแถมโปรแกรมในการรับส่ง mail ฟรี อีกด้วย..


Fresh Diagnose v1.0
สุดยอดโปรแกรมสำหรับตรวจสอบเครื่องคอมฯของคุณ ไม่ว่าจะเป็น OS หรือ Hardware ในทุกๆ ชิ้นส่วน เช่น CPU, Harddisk, Ram, Mulit-media เป็นต้น การใช้งานเพียงแค่คลิกเลือก เท่านั้นโปรแกรมจะแสดงรายงานออกมาให้คุณทราบทันที.. โปรแกรมนี้เป็น Shareware แต่สามารถขอ Registration Code แบบ online ฟรีได้ด้วย


HDD Temparature
Harddisk เป็นอุปกรณ์ในการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญมากที่สุดภายในคอมพิวเตอร์ ปัญหาหลัก ๆ อย่างหนึ่งของ harddisk คือความร้อน ถ้าความร้อนสูงมากเกินไป จะทำให้ harddisk เสียได้และผลก็คือ ทำให้ข้อมูลที่สำคัญของคุณเสียไป ทางแก้มีครับ ฟรีโปรแกรมตรวจสอบอุณหภูมิของ Harddisk





Hardware Sensor Monitor Pro
ปัญหาสำคัญของคอมพิวเตอร์ที่มักพบคือ ฝุ่น ซึ่งผลลัพธ์ของฝุ่นที่เกาะบริเวณชิ้นส่วนของคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดความร้อนสูง แน่นอนครับเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อนเกินขีดจำกัด จะเกิดผลทำให้การทำงานผิดพลาด หรืออาจเกิดอาการแฮ้งค์ได้ ดังนั้นถ้าจะติดตั้งโปรแกรมเล็ก ๆ ที่คอยตรวจสอบอุณหภูมิไว้ ก็ไม่เลยทีเดียว...


Max Format
เครื่องมือช่วยในการเพิ่มพื้นที่ในแผ่นดิสก์ง่าย ๆ ด้วยการ format ด้วยโปรแกรม Max Format เพียงคลิกเลือก format เช่นเดียวกันกับการ Format ด้วยโปรแกรม Windows ปกติแผ่นดิสก์ 3.5 นิ้วเมื่อ Format จะได้ 1.44 Mb แต่ถ้า Format ด้วย Max Format จะได้พื้นที่ถึง 1.72 MB หรือ 1.68 MB DMF


MS Windows Error Messages
โดยปกติ ระหว่างการใช้งาน Windows อาจมีปัญหาหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ และ Windows ก็จะแสดงหน้าต่างพร้อมบอก error Messages โดยใช้หมายเลขเป็นตัวบ่งบอก หลายต่อหลายครั้ง อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ ปัญหานี้จะแก้ได้โดยโปรแกรมนี้ MS Windows Error Message ซึ่งจะแสดงคำอธิบายของ error แต่ละตัวว่าหมายถึงอะไร


Multilingual Speaking Clock v2.01
ฟรี โปรแกรม Utility เล็กๆ ในการแสดงเวลาเป็นเสียงพูด โดยจะแสดงเป็นรูปแบบของนาฬิกาแบบดิจิตอล ความสามารรถไม่มีอะไรมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นโปรแกรมที่น่าใช้งานเหมือนกัน และที่สำคัญสามารถตั้งเวลาปลุกโดยใช้เสียงของคุณเองได้อีกด้วย


PC Booster v1.0
โปรแกรมช่วยในการปรับปรุงคุณภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น ทั้งคอมพิวเตอร์ (Harddisk, CD-Rom, Memory) , windows และการใช้งาน internet การปรับแต่งสามารถให้โปรแกรมปรับแต่งอัตโนมัติ หรือจะกำหนดเองได้ด้วย (แต่ต้องอาศัยความเข้าใจสักนิด)..


Personal Address File v1.16
โปรแกรม utility เล็ก ๆ ที่ช่วยในการบันทึกที่อยู่ ในลักษณะของ card (เช่นเดียวกันนามบัตร) สามารถค้นหาได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะหาจากชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ support ภาษาไทย แถมยังสามารถเลือกพิมพ์ออกมาได้อีกด้วย


Power Defrag V2.00
ถ้าคุณมีปัญหาการใช้งาน Scandisk หรือ Disk Defragmenter ของ Windows ล่ะก็ ขอเชิญมาทดสอบ Power Defrag ดู อีกหนึ่งโปรแกรมสำหรักการจัดการ harddisk ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถ ตรวจสอบ แก้ไข Registry ใน Windows ของคุณด้วย ถ้าสนใจลองหาซื้อมาใช้ดู ได้ครับ...


Power Desk v4.0.12
ฟรี โปรแกรมสำหรับการจัดการและเข้าถึงโปรแกรมในระบบ windows การใช้งานคล้าย ๆ กับ Windows Explorer แต่ได้รวมความสามารถหลาย ๆ เข้าด้วยกัน สามารถ run คำสั่งได้ dos ได้ทันที นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการจัดการเกี่ยวกับ zip file ได้ด้วย สำหรับเวอร์ชั่นนี้สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี..


Poweroff v3.0.0.4
ฟรี โปรแกรมในการตั้งเวลาปิดเครื่อง สามารถสั่งงานในระบบเครือข่ายได้ สามารถสั่ง Shutdown, Reboot, Stand by, Wake on Lan สามารถสั่งให้แสดงข้อความก่อนปิดได้ และเล่นไฟล์ sound ได้ และที่เด่นชัด สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าโดยกำหนดเป็นวัน และเวลา..


PowerPoint Viewer 97
สำหรับผู้ไม่มีโปรแกรม Microsoft Powerpoint สามารถใช้โปรแกรมนี้ดูไฟล์ Powerpoint ได้โดยตรง ต้องการพิมพ์ก็สามารถสั่งพิมพ์ และกำหนดจำนวนที่ต้องการได้ รวมทั้งสามารถตั้งรหัสผ่านในการแสดง presentation ได้อีกด้วย.. ของฟรีจากไมโครซอร์ฟครับ


Printit v1.1
โปรแกรมที่ช่วยในการพิมพ์ภาพ Jpg สามารถเลือกพิมพ์ภาพเดียวกัน แบ่งเป็น 1,2,4,6,9 และ 16 ภาพ (คล้ายถ่ายภาพติดบัตร) หรือจะนำภาพหลาย ๆ ภาพมาพิมพ์ในแผ่นเดียวกันก็ได้ รวมทั้งสามารถเลือกใส่กรอบได้อีกด้วย...


Quick Hide Windows v1.5
ฟรี utility เล็กๆ สำหรับซ่อม taskbar หรือ ซ่อน icon บนหน้าจอ หรือที่เราเรียกว่า desktop สำหรับป้องกันการใช้งานในคอมพิวเตอร์ สามารถกำหนดรหัสผ่านได้อีกด้วย การใช้งานจะเรียกผ่าน hot key เป็นตัวเรียกโปรแกรมที่ซ่อนออกมา


Ram Booster v1.6
ปกติแล้ว คอมพิวเตอร์จะทำงานได้เร็วส่วนหนึ่งมาจากการที่มี หน่วยความจำมาก ๆ หรือที่เราเรียกว่า แรม หลังจากที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ไปสักพัก หลาย ๆ ครั้งเราจำเป็นจะต้องมีการ boot เครื่องใหม่ (เครื่องแฮ้งค์) ซึ่งดูจะเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใช้งาน Windows แต่ถ้าคุณอยากลองใช้โปรแกรมเพื่อป้องกันและลดความถี่ในการ boot เครื่องละก็ ลอง download โปรแกรมนี้มาใช้ดู...


Ram Idle v4.5.1
ฟรี โปรแกรมสำหรับจัดการแรมและแคชอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้เร็วขึ้น แต่ถ้าคุณจะจัดการหน่วยความจำเองก็ได้น่ะค่ะ เพราะเขามีเมนูจัดการให้อีกด้วย...


Registry Saver Pro v1.0
ฟรี โปรแกรมที่ช่วยในการสำรอง Registry windows ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง ถ้า Registry มีปัญหาเราก็จะไม่สามารถใช้งาน Windows ได้เลย การใช้งานเพียงเรียก registry backup โปรแกรมก็จะทำงานใหัอัตโนมัติ


Scitech Display Doctor v6.53
เพิ่มประสิทธิภาพในการแสดงผล ตรวจสอบปัญหาเกี่ยวกับจอภาพ พร้อมทั้งสามารถกำหนดรายละเอียดพื้นฐานเช่น กำหนดความละเอียด จำนวนสีของหน้าจอภาพ ผ่านโปรแกรมนี้โดยตรงได้


SmartFormat v1.1
แผ่นดิสก์เก็ตที่มีปัญหา อย่าทิ้ง ! เดี๋ยวนี้เราสามารถแก้ไขปัญหา bad sector ในแผ่นดิสก์ได้แล้วด้วย Smart Format โปรแกรมนี้ สามารถทำแผ่นดิสก์ให้เสียกลับมาใช้ใหม่ได้ อยากรู้ว่าทำอย่างไร จริงเท็จแค่ไหน เชิญศึกษาและทดลองใช้ดู.. (โปรแกรมนี้เป็น Shareware แต่สามารถใช้งานได้ไม่มีจำกัด)


Snag it v5.10
ปกติต้องการต้องการภาพของโปรแกรมอะไร เราก็มักจะใช้วิธีการ Print Screen จากนั้นก็ไป paste ที่โปรแกรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, Powerpoint หรือแม้แต่กระทั่งโปรแกรมด้านกราฟฟิกเช่น Photoshop จากนั้นแล้วก็จะมีการตัดบางส่วนที่ไม่ต้องการออก แล้วจึง save กลับมาในรูปแบบของไฟล์ภาพอีกครั้งหนึ่ง ดู ๆ แล้วค่อนข้างยุ่งยากเกินไป แต่วันนี้คุณสามารถใช้โปรแกรมจับจอภาพโดยเฉพาะ นำมาตกแต่งในรูปแบบของคุณได้แล้ว...


Space Odyssey v2.0
ขยะภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบคอมฯ โดยรวมทำงานช้าลง... คุณทราบหรือไม่ว่าขยะเหล่านี้มาจากไหน? ส่วนใหญ่ ขยะหรือไฟล์ที่เราสามารถลบทิ้งได้ เกิดจากการทำงานของ Windows เองในขณะประมวลผลข้อมูล และส่วนหนึ่งมาจากการใช้งาน internet ขยะเหล่านี้สามารถลบทิ้ง โดยวิธีง่าย ๆ เพียงใช้โปรแกรม Space Oddyseey


Space Searcher
โปรแกรมที่ช่วยในการตรวจสอบและรายงานพื้นที่ว่างใน harddisk ตรวจสอบขนาดไฟล์ และโปรแกรมต่าง ๆ ที่ใช้ไป สามารถสรุปข้อมูลพิมพ์ออกมาเป็น Excel และพิมพ์ในรูปแบบของ HTML ได้ด้วย..


System Safe Gold v6.0.1
โปรแกรมช่วยสำรองไฟล์ระบบของ Windows รองรับการทำงานทั้ง Windows 95, 98, NT, 2000 รวมทั้ง Windows ME ด้วย การทำงานจะตรวจสอบและแก้ไขไฟล์ที่เสียอัตโนมัติ กรณีเข้า Windows ไม่ได้ ก็มีโปรแกรมรันแก้ไขในระบบ DOS ได้ด้วย


The Magic Watch v1.8
ฟรี utitliy โปรแกรม นาฬิกาหรือโปรแกรมแสดงเวลาในอีกรูปแบบหนึ่ง สามารถตั้งเวลาปลุกพร้อมแสดงข้อความและเล่นไฟล์เสียงที่ต้องการได้ และยังกำหนดลูกเล่นเพิ่มเติมให้กับ Windows ได้หลายรูปแบบ รวมทั้งการสร้างปุ่ม shutdown ได้เองบน taskbar..


Tweaker 2000 v5.02
หลายต่อหลายครั้ง เราอาจต้องการให้หน้าตา Windows เป็นในลักษณะที่เราต้องการ หรือเบื่อหน่ายกันรูปแบบเดิม ๆ ของ Windows มาวันนี้เรามีโปรแกรมฟรี ๆ มาแนะนำ โปรแกรมตัวนี้สามารถปรับแต่งคุณสมมัติต่าง ๆ ใน Windows ในรูปแบบของคุณได้ เพียงคลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการเท่านั้น...


WallSmart v2.2
ฟรี โปรแกรม utiltiy ขนาดเล็ก ที่ช่วยในการปรับแต่ง wallpaper ให้อัตโนมัติ สามารถตั้งเวลาการปรับเปลี่ยนทุกนาที ทุกชั่วโมง และที่สำคัญสามารถนำรูปภาพที่คุณถูกใจ มาเป็น wallpaper ได้อีกด้วย ไฟล์ที่รองรับคือ bmp, jpg ครับ


WCPUid v3.1
โปรแกรมตรวจสอบอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ชนิดถึงภายในและชิ้นส่วนเลยทีเดียว อยากทราบว่าเครื่องคอมฯ ของคุณตรงกับ spec ที่ซื้อมาหรือไม่ คลิกเข้าไปศึกษาและ download กันเลยครับ..


WinAce Archiver v2.02
Utility ที่ช่วยในการ compress และ uncompress ข้อมูลได้หลายรูปแบบ แสดงของข้อมูลในลักษณะเช่นเดียวกับ windows explorer นอกจากนี้ยัง support การดูรูปภาพใน format ต่าง ๆ มากมาย ภาษาที่ใช้สามารถเลือกได้ 2 ภาษา คือ อังกฤษ และเยอรมัน..


Window Blinds Enhanded v2.0
Utility program ที่น่าสนใจตัวหนึ่ง ที่ทำให้ท่านหายจำเจ หรือเบื่อกับหน้าตาเดิม ๆ ของ Windows เพียงแค่ติดตั้งโปรแกรม Window Blinds จะนั้นเพียงแค่เลือกรูปแบบของ skin ที่ท่านต้องการ แค่นี้ท่านก็จะไดเห็นความแปลกใหม่ของ Windows ของท่านแล้ว...


Win Forcer Lite v2.6
ฟรี โปรแกรมในการป้องกัน การเข้ามาใช้งานในระบบ Windows เช่น ยกเลิกการใช้คำสั่ง Run, Recycle Bin, My Computer เป็นต้น การควบคุมจะใช้ password ในการเข้าถึง และแก้ไข ส่วนการใช้งานก็เพียงคลิกเลือกหัวข้อที่ต้องการ และยกเลิกหัวข้อที่ไม่ต้องการเท่านั้น..


Winter Cooler v4.6
ฟรี Utility สำหรับตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้งช่วยจัดการเกี่ยวกับ Ram + internet เพื่อการทำงานคอมพิวเตอร์ที่สมบูรณ์ขึ้น นอกจากนี้ยังมี System information ที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในเครื่องที่ค่อนข้างละเอียดมาก ๆ...


WinTune v1.0.43
เชิญ download WinTune ไปตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้ฟรีครับ โปรแกรมนี้มาจาก Windows Magazine สำหรับตรวจสอบ System information, memory, disk, video และส่วนอื่น ๆ อีก จากนั้นก็จะรายงานผลออกมาในรูปแบบของไฟล์ HTML ซึ่งสามารถเปิดได้ด้วยโปรแกรม Browser ทั่ว ๆ ไป


Word Viewer 97
สำหรับผู้ไม่มีโปรแกรม Microsoft Word สามารถใช้โปรแกรมนี้ดูไฟล์ Word ได้โดยตรง ดูแบบย่อ ขยาย หรือ ต้องการพิมพ์ก็สามารถสั่งพิมพ์จากโปรแกรมตัวนี้ได้ และที่สำคัญเราสามารถเปิดดูไฟล์ได้ค่อนข้างรวดเร็วมากกว่าเปิดผ่านโปรแกรม Microsoft Word...


Zip Central
freeware โปรแกรมบีบอัดข้อมูล ทางเลือการของใช้โปรแกรมอย่างถูกกฏหมาย ไม่ใช่ shareware ที่มีการกำหนดเวลาการใช้งาน หรือไม่สามารถใช้ความสามารถของโปรแกรมได้เต็มที่ ขนาดไฟล์ไม่ใหญ่มากนัก การใช้งานเหมือนกับโปรแกรม Winzip ที่เชื่อว่าหลายๆ คนได้เคยใช้มาบ้างแล้ว


ZipitFast v.2.0
ข่าวด่วน ฟรีโปรแกรม Zip File เช่นเดียวกับโปรแกรม WinZip แต่โปรแกรมตัวนี้เป็น ฟรีแวร์ คือแจกฟรีครับ ส่วนความสามารถก็ไม่แพ้โปรแกรมใหญ่ ๆ ตัวอื่นเลยทีเดียว เชิญคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยครับ...

วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2551

กฎหมายเกี่ยวกับคอมพิวเตอรื

หน้า ๔
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ. ๒๕๕๐

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
------------------------------------------------------------------------


โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับ
คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐”
---------------------------------------------------------------------

มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
---------------------------------------------------------------------

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงาน
เข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์
หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ

---------------------------------------------------------------------
หน้า ๕
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดา
ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึง
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบ
คอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา
ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่ว
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดย
ประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือ
ในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น
“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตาม
พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้

หมวด ๑
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึง
โดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ
ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

-------------------------------------------------------------------------
หน้า ๖
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐

มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ
และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
-------------------------------------------------------------------------------

มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น
มิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน
สามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
--------------------------------------------------------------------------

มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือ
บางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิด
หรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ
บุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

--------------------------------------------------------------------
มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐
(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือ
ในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกิน
สองแสนบาท
(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบ
คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง
ในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือ
ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และ
ปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่
สิบปีถึงยี่สิบปี

-----------------------------------------------------------------------
หน้า ๗
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือ
ในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือ
มาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ
ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด
ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา
(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)
(๒) (๓) หรือ (๔)
มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔
ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตาม
-----------------------------------------------------------------------------

มาตรา ๑๔
มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม
หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้น
เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ
ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด
ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้
ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ
บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย
มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ
----------------------------------------------------------------------

หน้า ๘
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือ
ผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและ
ผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร
หมวด ๒
พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มี
เหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่ง
อย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด
และหาตัวผู้กระทำความผิด
(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ
นี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบ
ที่สามารถเข้าใจได้
(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบ
คอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่
ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์
ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยัง
มิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่
(๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บ
ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่
(๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับ
การกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้
-----------------------------------------------------------------------------

หน้า ๙
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการ
เข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ใน
การถอดรหัสลับดังกล่าว
(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียด
แห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่
ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการ
อย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำ
ความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถ
จะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว
เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนา
บันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้
เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครอง
เครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ
ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้
ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ
(๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจ
ภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐาน
การทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อ
ได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของ
เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น
การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรือ
อายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้วพนักงานเจ้าหน้าที่จะ
สั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้อง
ต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือ
หลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลา
ดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน
-----------------------------------------------------------------------

หน้า ๑๐
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลาย
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสอง
ลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อย
หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง
พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูล
คอมพิวเตอร์นั้นได้
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้
พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้
แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้

---------------------------------------------------------------------------
มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึง
ประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้าม
จำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลาย
หรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือ
เผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้

ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือ
ระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม
ขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

-------------------------------------------------------------------
มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูล
จราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใด
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่
โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาล
พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน
หกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
-----------------------------------------------------------------

หน้า ๑๑
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของ
ผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษ
จำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่
ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ
มีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น
มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
นับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการ
ผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
และเฉพาะคราวก็ได้
ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ
นับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง
ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรี
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท

---------------------------------------------------------------------
มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘
หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
และปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง

---------------------------------------------------------------------
มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้
และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงาน
ฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์
หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้

-----------------------------------------------------------------------
หน้า ๑๒
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตาม
พระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงาน
สอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงาน
สอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีมีอำนาจร่วมกัน
กำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง
------------------------------------------------------------------------

มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคล
ซึ่งเกี่ยวข้อง
บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี

------------------------------------------------------------------------
หน้า ๑๓
เล่ม ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็น
ส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบ
คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือ
ใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือ
ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิด
ความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรม
อันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็น
ต้องตราพระราชบัญญัตินี้

www. คืออะไร

World Wide Web
World Wide Web หรือ WWW หรือ W3 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Web เป็นรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหา
ข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่ง ข้อมูลที่อยู่
ห่างไกล ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด WWW จะแสดงผลอยู่ใน
รูปแบบของเอกสารที่เรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hyper Text) ซึ่งเป็นฐาน
ข้อมูลชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจายในที่
ต่าง ๆ ทั่วโลกให้สามารถนำมาใช้งานได้เสมือนอยู่ในที่เดียวกัน คล้ายกับ
เส้นใยแมงมุมที่ถักถอเส้นสายเชื่อมโยงกันไปมา เส้นใยจำนวนมากเหล่านี้
จะถูกจัดวางทับกัน มีจุดเชื่อมต่อที่ทำให้ตัวแมงมุมสามารถที่จะเดินทาง
ไปยังจุดใด ๆ บนเส้นใยเหล่านี้ได้ซึ่งเป็นที่มาของ W ตัวที่สาม คือ Web
นั่นเอง Hyper Text ที่ถูกสร้างขึ้นจะอยู่ในรูปของแฟ้มเอกสาร HTML
ซึ่งเป็นลักษณะของ Document file ที่มีการกำหนดคุณสมบัติ markup
ของเว็บเพจ เข้าไป แต่ยังไม่สามารถแสดงผลข้อมูลออกมา ให้ใช้งานได้
โดยตรงถ้าต้องการดูข้อมูลที่เกิดจากการสร้างจะต้องผ่านโปรแกรมที่ทำ
หน้าที่แปลคำสั่งนั้นก่อนเราเรียกโปรแกรมที่ทำหน้าที่นี้ว่า
"โปรแกรมเว็บเบราเซอร์" (Web Browser Program) หน้าที่หลักของ โปรแกรมคือเป็นตัวแปลคำสั่งของไฮเปอร์เท็กซ์แล้วแสดงผลออกมาเป็น
รูปภาพ เสียง ข่าวสารและข้อมูล โปรแกรมเว็บเบราเซอร์ มีมากมายหลาย
โปรแกรม เช่น Mosaic , Netscape Comunicator , Internet Explorer
Opera ปัจจุบันโปรแกรม Mosaic ไม่ค่อยมีผู้นิยมใช้แล้ว ตัวอย่างการเรียก
ใช้ข้อมูล ผ่านโปรแกรมเว็บเบราเซอร์ Netscape Comunicator
URL (Uniform Resource Locator) คือ
เป็นที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้บริการจะเข้าไปเรียกดูข้อมูล
ชื่อโดเมนยังสามารถนำมาเป็นส่วนหนึ่งของ URL ได้รูปแบบมีดังต่อไปนี้
โปรโตคอล://ชื่อโดเมน/ชื่อไดเรกทอรี่ที่เก็บไฟล์ในโฮสต์/ชื่อไฟล์ในโฮสต์
ตัวอย่างของโปรโตคอลที่เรียกใช้บริการได้ เช่น http:// หรือ ftp:// เป็นต้น
HTML(HyperText Markup Language) คืออะไร
>>>เว็บเพจจะถูกสร้างขึ้นมาจากภาษา HTML
HTML เป็นภาษาสำหรับทำเครื่องหมายอันประกอบด้วยคำสั่งที่เรียกว่า “Tags” ที่เป็นตัวกำหนดว่าเว็บเพจจะมีข้อความอะไร มีการแสดงรูปภาพ เสียง และวีดีโอที่ตำแหน่งใด หรือมีการเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่นอีกหรือไม่ เป็นต้น

HTML

• HTML ( HyperText Markup Language ) คือภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันมากที่สุดบนอินเตอร์เนต เป็นภาษาง่าย ๆ ไม่มีความสลับซับซ้อนมากนัก มีขึ้นเพื่อที่จะเป็นตัวแปลอ่าน code คำสั่งในเอกสารเพื่อแสดงผลในรูปแบบต่าง ๆ เช่นให้แสดงอักษร แสดงภาพ เชื่อมโยงเอกสาร (HyperLink) เปิด-ปิดเสียง เชื่อมโยงไฟล์ประเภทต่าง ๆ

• HTML ย่อมาจาก HyperText Markup Language โดยทำหน้าที่เป็นเหมืนภาษาโปรแกรมมิ่งคำสั่งที่ใช้ในการแสดงผล HTML เรียกว่า Tag ซึ่งมีเครื่องหมายมากกว่า และเครื่องหมายน้อยกว่า โดยมีคำสั่งอยู่ระหว่างกลาง ซึ่งเป็นคำสั่งเพื่อให้เว็บเบราวเซอร์ทำการแสดงผล ตังอย่างเช่น คำสั่ง
เป็นคำสั่งสำหรับใช้ขึ้นย่อหน้าใหม่
• ส่วนใหญ่แล้วคำสั่ง ของ HTML จะมี 2 ส่วน คือ คำสั่งเปิดและคำสั่งปิด โดย คำสั่งเปิดจะอยู่ในเครื่องหมาย < … > และคำสั่งปิดจะอยู่ในเครื่องหมาย ซึ่งจะมีเครื่องหมาย “/” อยู่ด้วย